วิธีทำ Google Ads 2026

คู่มือการทำ Google Ads ที่ธุรกิจ SME ไทยต้องรู้

วิธีทำ Google Ads 2026

วิธีทำ Google Ads 2026 : ธุรกิจ SME ไทยต้องรู้

Google Ads ในปี 2026 เข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัว การพึ่งพา AI, การติดตามผลแบบแม่นยำ และการใช้ข้อมูลของลูกค้าเองกลายเป็นหัวใจของความสำเร็จ บทความนี้สรุปแนวทางปฏิบัติจริงสำหรับธุรกิจไทย เพื่อให้คุณใช้ Google Ads ได้คุ้มค่าทุกบาท

สิ่งที่ควรโฟกัสในปี 2026

AI และ Performance Max คือแกนหลักของกลยุทธ์

Google Ads ปี 2026 มุ่งหน้าไปที่ระบบอัตโนมัติและการใช้ AI เป็นหลัก โดยเฉพาะ Performance Max (PMax) ซึ่งเป็นแคมเปญแบบรวมทุกช่องทาง ทั้ง Search, Display, YouTube และ Discover โดยใช้ AI เลือกช่องทางและข้อความที่เหมาะสมที่สุด

แนวทางใช้งาน PMax ให้ได้ผล:

  • เตรียมเนื้อหา Asset ที่หลากหลาย (ภาพ, วิดีโอ, หัวข้อ, คำอธิบาย)
  • ใส่ Audience Signal จากลูกค้าปัจจุบันหรือ Website Visitors
  • ตั้งค่าการวัดผล Conversion อย่างแม่นยำ เพื่อให้ AI เรียนรู้ถูกทาง

PMax ให้ผลลัพธ์ดีกว่า Search Campaign แบบเดิมถึง 30-40% ในธุรกิจที่มีสินค้าหลากหลายหรือมีกลุ่มลูกค้าหลายกลุ่ม

Conversion Tracking ต้องแม่นยำแบบครบวงจร

Google ให้ความสำคัญกับข้อมูล Conversion ที่มีคุณภาพ การตั้งค่าที่แนะนำ:

  • เปิดใช้งาน Enhanced Conversions
  • พิจารณาใช้ Server-Side Tracking หากมีระบบหลังบ้าน
  • ระบุ Conversion Value เพื่อตัดสินใจด้วยข้อมูลมูลค่าจริง

First-Party Data คือทรัพยากรสำคัญ

เมื่อ Third-Party Cookie ลดบทบาทลง การเก็บข้อมูลลูกค้าโดยตรง (อีเมล, เบอร์โทร) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ โดยเฉพาะการใช้ Customer Match เพื่อ:

  • รีเทาร์เก็ตลูกค้าเก่า
  • หาลูกค้าใหม่แบบ Lookalike
  • ทำแคมเปญเฉพาะกลุ่มที่มีโอกาสซื้อสูง

YouTube Ads: โอกาสใหญ่สำหรับแบรนด์

คนไทยใช้ YouTube มากกว่า 30 นาทีต่อวัน การลงทุนในวิดีโอสั้น YouTube Shorts จึงให้ผลลัพธ์ที่ดี ทั้งในแง่ต้นทุนต่อ View ที่ต่ำ และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้าง

ธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นแบบมีที่ปรึกษาอาจพิจารณาทำงานร่วมกับ บริษัทรับทำ Google Ads เพื่อช่วยออกแบบและบริหารแคมเปญให้เกิดผลลัพธ์เร็วขึ้น โดยเฉพาะหากยังไม่มีทีมภายในหรือไม่คุ้นชินกับระบบใหม่อย่าง PMax

ตัวอย่างโฆษณา PMax ของ Google Ads 2026

Demand Gen Campaign: ทางเลือกใหม่ที่ควรลอง

Demand Gen มาแทน Discovery Ads โดยแสดงโฆษณาข้าม Gmail, Discover และ YouTube ใช้ AI สูง เหมาะกับ:

  • ธุรกิจที่เน้นการสร้างแบรนด์
  • การเปิดตัวสินค้าใหม่
  • การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่รู้จักแบรนด์มาก่อน

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในปี 2026

อย่าควบคุมแบบ Manual เกินไป

การปรับแคมเปญบ่อยเกินไปทำให้ AI ไม่มีเวลาปรับตัว แนะนำ:

  • อย่าปรับเกิน 1 ครั้งต่อสัปดาห์
  • ปล่อยให้ AI เรียนรู้ 7-14 วันต่อรอบการเปลี่ยนแปลง

หลีกเลี่ยง Broad Match ถ้าไม่ใช้ Smart Bidding

การใช้ Broad Match แบบไม่จับคู่กับ Target CPA หรือ Target ROAS จะทำให้สูญเสียงบประมาณไปกับกลุ่มเป้าหมายที่ไม่มีคุณภาพ กลุ่มเป้าหมายจะกว้างเกินไป เพราะโฆษณาจะไปแสดงแบบกว้างโดยไม่มี Smart Bidding ควบคุม

ไม่ทำ Negative Keywords = เผางบ

แม้ AI จะฉลาดขึ้น แต่คุณยังต้องตรวจสอบ Search Terms และใส่ Negative Keywords อย่างสม่ำเสมอ เพื่อกันไม่ให้โฆษณาไปแสดงในคำค้นที่ไม่เกี่ยวข้อง

อย่าพึ่ง Search Ads อย่างเดียว

ลูกค้าไม่ได้อยู่แค่ใน Google Search ต้องกระจายงบไปที่ PMax, Display, YouTube, Shopping เพื่อเพิ่ม Reach และลดต้นทุนต่อ Conversion

ประสบการณ์บนมือถือคือจุดตัดสินการซื้อ

เว็บไซต์ที่โหลดช้า หรือใช้งานยากบนมือถือ = เสียลูกค้า ตรวจสอบ:

  • ความเร็วด้วย PageSpeed Insights
  • ความเหมาะสมกับมือถือด้วย Mobile-Friendly Test
  • ปุ่ม CTA ต้องชัด กดง่าย

ฟีเจอร์แนะนำใน Google Ads ปี 2026

Performance Max (PMax)

เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงหลายช่องทางด้วยงบที่ควบคุมได้ เริ่มจากงบน้อยก่อน แล้วค่อยขยายเมื่อเห็นผล

Smart Bidding

เลือกตามวัตถุประสงค์:

  • Target CPA สำหรับ Lead Generation
  • Target ROAS สำหรับ E-commerce
  • Maximize Conversions สำหรับธุรกิจงบน้อย
  • Maximize Conversion Value สำหรับธุรกิจที่มีมูลค่าแต่ละ Conversion ต่างกัน

Responsive Search Ads (RSA)

ใส่ Headline และ Description หลายแบบ ให้ Google ทดลองจับคู่เพื่อหาคอมบิเนชันที่ได้ผลที่สุด

Google Ads Recommendations

เช็กแท็บคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะ:

  • การลบคำค้นที่ซ้ำซ้อน
  • การเพิ่มคีย์เวิร์ดที่มีแนวโน้มค้นหาสูง
  • การแก้ไขปัญหาการติดตาม Conversion

อย่าทำตามอัตโนมัติในข้อเสนอที่เกี่ยวกับการเพิ่มงบโดยไม่ได้ประเมิน ROI

Offline Conversion Tracking

สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือปิดการขายทางโทรศัพท์ ควรอัปโหลดข้อมูลการซื้อกลับเข้า Google Ads เพื่อให้ AI เรียนรู้ว่าลูกค้าประเภทไหนซื้อจริง

เชื่อมต่อ Google Ads กับ GA4

ดูพฤติกรรมหลังคลิก เช่น หน้า Bounce Rate สูง, เส้นทางผู้ใช้งานก่อนซื้อ เพื่อนำมาปรับปรุง Landing Page

เคล็ดลับสำหรับตลาดไทย

ใช้คีย์เวิร์ดไทยหลากหลายแบบ

อย่าติดแค่คำมาตรฐาน ใช้หลากหลายรูปแบบ เช่น:

  • “โฆษณา google” / “ลง ads” / “ยิงแอด”
  • “ขายของ online” / “เปิดร้านใน ig”

เตรียมแผนล่วงหน้าก่อน Peak Season

เพิ่มงบก่อนฤดูกาลขาย 1-2 เดือน เช่น:

  • ช่วงปีใหม่ (ของขวัญ, ท่องเที่ยว)
  • เมษา (สินค้าบ้านใหม่)
  • ก่อนเปิดเทอม (อุปกรณ์การเรียน)

ใช้ Location Targeting อย่างละเอียด

แทนที่จะยิงครอบคลุมเมืองใหญ่ ให้ระบุเป็นรัศมี หรือชื่อเขตเฉพาะที่กลุ่มเป้าหมายอาศัยอยู่

Price Extension ช่วยกรองลูกค้า

ใส่ราคาล่วงหน้าในโฆษณา Search เพื่อลดคนที่คลิกโดยไม่พร้อมซื้อ และเพิ่มอัตราการเปลี่ยนเป็นลูกค้า

สรุปแนวทางการทำ Google Ads 2026

วิธีทำ Google Ads 2026 สำคัญที่:

  • ยอมรับและใช้ AI อย่าง Performance Max, Smart Bidding
  • ตั้งค่า Conversion Tracking ให้แม่นยำที่สุด
  • สะสม First-Party Data ของตัวเอง
  • กระจายช่องทางไปทั้ง Search, Display, Video
  • หลีกเลี่ยงการคุม Manual มากเกินไป
  • ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

Google Ads เปลี่ยนแปลงเร็วมาก สิ่งที่ใช้ได้ดีวันนี้ อาจไม่ได้ผลในอีก 6 เดือน การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและยืดหยุ่นปรับตัวคือกุญแจความสำเร็จ

แจก E-book Google VS Facebook ฟรี!!!

เพียงส่งโค้ดในหน้าเว็บนี้เข้ามาที่ไลน์

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!






    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน