มั่งคั่งทั้งชีวิต

        วิธีรวยแบบเศรษฐีที่ทำให้คุณมั่งคั่งทั้งเงิน เวลา สุขภาพ

ผู้แต่ง

ผู้แปล

: ภัทรพล ศิลปาจารย์ (พอล)

: –

ภาพรวม
ความอ่านง่าย
นำไปใช้ได้จริง
แนะนำให้อ่าน

รีวิวหนังสือ

หัวข้อที่ชอบ
1.  ทัศนคติทางการเงิน

 ทัศนคติทางการเงินเปรียบเสมือนพิมพ์เขียวของชีวิต หากพิมพ์เขียวถูกออกแบบมาอย่างดี ผลลัพธ์ทางการเงินและฐานะย่อมดีตามไปด้วย แต่หากมุมมองต่อเงินไม่ถูกต้อง ก็เหมือนการผลักเงินออกจากตัวเองโดยไม่รู้ตัว ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า ทัศนคติที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานสำคัญของการลงมือทำและสร้างความมั่นคงทางการเงินค่ะ

2.  ยิ่งออมยิ่งจน

การออมเงินเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้เราร่ำรวยได้อีกต่อไป เพราะมูลค่าของเงินที่ออมไว้นั้นลดลงเรื่อย ๆ ตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในอดีตเคยสูงถึง 10% ต่อปี แต่ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 0.25% ต่อปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี ซึ่งหมายความว่ายิ่งเราออมเงินมากเท่าไหร่ มูลค่าที่แท้จริงของเงินก็ยิ่งลดลง และอาจทำให้สถานะทางการเงินแย่ลงหากไม่ได้บริหารจัดการอย่างเหมาะสม
แนะนำว่า หาเงินได้เมื่อไหร่ให้นำไปออม เปลี่ยนเป็น หาเงินได้เมื่อไหร่ “ให้นำไปลงทุน”

  1. มีอิสรภาพทางการเงินด้วยเป้าหมาย

การออมเงินควรเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะเป้าหมายจะช่วยให้เราสามารถวางแผนและออกแบบวิธีการออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยให้เรารู้ว่าจะใช้เครื่องมือทางการเงินแบบใด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและละเอียดรอบคอบมากที่สุด

  1. Money market fund หรือกองทุนรวมตลาดเงิน

มีกองทุนที่หลายคนอาจจะสนใจ เป็นกองทุนรวมตลาดเงิน (MMF) เป็นการลงทุนที่ใช้พักเงินชั่วคราว ไม่เหมาะลงทุนยาวๆ มีแผนจะใช้เงินภายใน 1 ปี เพราะมีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก และได้รับยกเว้นภาษีจากกำไรส่วนต่าง

  1. Mutual funds (กองทุนรวม)

กองทุนรวมแบบ Passive Funds เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก ไม่มีเวลาศึกษาตลาด หรือยังไม่เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพราะกองทุนประเภทนี้ไม่ได้ใช้ผู้จัดการกองทุนในการเลือกหุ้น        แต่เลือกลงทุนตามดัชนีอ้างอิงโดยอัตโนมัติ เช่น S&P 500 นอกจากนี้ยังมีข้อดีคือค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

  1. 3 ขั้นตอนการ “เลือกหุ้นคุณภาพ” สำหรับมือใหม่

6.1  เริ่มจากเราต้องหา Mega Trend ที่จะส่งผลต่อคนจำนวนมาก เช่น ภาวะโลกร้อน สังคมสูงวัย

6.2  แล้วมาศึกษาดูต่ออุตสาหกรรมอะไรบ้างที่จะได้ประโยชน์

6.3  ทำการเลือกมา 1 บริษัท ซึ่งต้องศึกษาและรับความเสี่ยงในการลงทุน ให้คิดว่าเราเป็นหนึ่งในเจ้าของบริษัทด้วย

  1. DCA เสี่ยงน้อย ผลตอบแทนดี

แนะนำการลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนที่ช่วยเฉลี่ยความเสี่ยง โดยการลงทุนในจำนวนเงินเท่าเดิมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าราคาตลาดจะขึ้นหรือลง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องค่ะ