การทำ Remarketing ให้ลูกค้าซื้อซ้ำ

การทำ Remarketing ให้ลูกค้าซื้อซ้ำ: เปลี่ยนคนที่เคยสนใจให้กลับมาปิดการขาย

Marketing Psychology

การทำ Remarketing ให้ลูกค้าซื้อซ้ำ: เปลี่ยนคนที่เคยสนใจให้กลับมาปิดการขาย

ถ้าคนเคยคลิก เคยดูสินค้า หรือเคยแชตกับเราแล้วหายไป นั่นอาจจะไม่ใช่การทำยอดที่สูญเปล่า แต่คือ “โอกาสใกล้ปิดดีล” รีมาร์เก็ตติ้ง (Remarketing/Retargeting) คือกลยุทธ์ที่พาธุรกิจกลับไปคุยกับคนกลุ่มนี้ อย่างถูกเวลาด้วยข้อความที่ใช่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการคอนเวิร์ตและซื้อซ้ำ


ทำไมรีมาร์เก็ตติ้งถึงสำคัญ

  • ต้นทุนต่อคอนเวิร์ชันต่ำลง: ผู้ชมคุ้นแบรนด์อยู่แล้ว ต้องการเพียงแรงกระตุ้นสุดท้าย
  • เพิ่มยอดขายจากคนเดิมที่เคยเข้าเว็บไซต์ หรือเพจของเรา: ถูกกว่าไปหากลุ่มใหม่เสมอ
  • ทำฟันเนล (Funnel) ได้สมบูรณ์: เติมจิ๊กซอว์ระหว่าง Awareness → Consideration → Conversion

แบ่งกลุ่มผู้ชมรีมาร์เก็ตติ้งให้เป็น (Hot/Warm/Cold)

Hot (ใกล้ซื้อ): ใส่ตะกร้า/เริ่มเช็กเอาต์/กรอกฟอร์มค้าง – ข้อความ: โปรโมชั่นเฉพาะบุคคล, ความเร่งด่วน, รีวิวการใช้งานจริง
Warm (สนใจสูง): ดูสินค้าหลายหน้า/ดูวิดีโอถึง % ที่กำหนด – ข้อความ: เปรียบเทียบข้อดี, เคสจริง, สิทธิพิเศษเล็ก ๆ
Cold (รู้จักเราแล้วบ้าง): เคยเยี่ยมชม/มีปฏิสัมพันธ์บางส่วน – ข้อความ: เล่า Value/แตกต่าง, คอนเทนต์ให้ความรู้, โซเชียลพรูฟ


เลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะกับบทบาทใน Funnel

  • Google Display & YouTube Remarketing: เก่งเรื่องไล่ตามผู้ใช้ข้ามเว็บไซต์/วิดีโอ เข้าถึงคนที่กำลังค้นหาและคนที่เคยโต้ตอบกับเรามาก่อน (เหมาะกับสินค้าที่มีการค้นหาชัดเจน) — ต้องการทีมช่วยวางโครงสร้าง Customer Match/สัญญาณผู้ชม ดู รับทำ Google Ads
  • Facebook/Instagram Remarketing: เด่นเรื่องครีเอทีฟภาพ/วิดีโอ ฟีด/สตอรี่/รีล และการสื่อสารซ้ำแบบเป็นกันเอง (เหมาะกับสินค้าที่ต้องเล่าเรื่อง/รีวิว) — ต้องการตั้ง Pixel+CAPI ให้ครบ ดู รับทำ Facebook Ads

ข้อความและข้อเสนอ (Offer) ที่ควรใช้กับแต่ละกลุ่ม

  • Hot: คูปองเฉพาะบุคคล/ผ่อน 0%/ของแถมชิ้นที่เกี่ยวข้อง, การันตีเปลี่ยน/คืนเงิน, ย้ำความเร่งด่วน (เช่น หมดเขตภายใน 72 ชม.)
  • Warm: แชร์รีวิว/เคสคล้ายกับผู้ชม, เปรียบเทียบฟีเจอร์ที่คนลังเล, เชิญทดลอง/จองนัดสั้น ๆ
  • Cold: คอนเทนต์ความรู้, วิดีโอสั้นเล่า Pain → Benefit → Proof → CTA, นำเสนอ USP ให้ชัด

สูตรครีเอทีฟเร็ว: “PAIN → PROOF → PROMISE → PUSH”

  • Pain: สิ่งที่ลูกค้าติดอยู่/กลัวพลาด
  • Proof: ตัวเลข/เคสจริง/รางวัล/รีวิว
  • Promise: ผลลัพธ์ที่จับต้องได้
  • Push: คำกระตุ้นชัด ๆ (เช่น จองสิทธิวันนี้)

หน้าเว็บไซต์ปลายทาง (Landing Page) ต้องสอดรับกับความต้องการของผู้ชม

  • ผู้ชม Hot ควรเจอหน้าแบบสั้น โฟกัสข้อเสนอ/หลักฐาน/ปุ่มติดต่อใหญ่
  • ผู้ชม Warm/Cold ควรเห็นข้อมูลเชิงลึก เช่น ประโยชน์/รีวิว/FAQs มากขึ้น
  • ตรวจความเร็วและ Core Web Vitals ด้วย PageSpeed Insights; ปรับตามสิ่งที่วัดได้ใน GA4

การตั้งค่ารีมาร์เก็ตติ้งทางเทคนิค (ให้ระบบเรียนรู้ได้ดี)

  • ระยะเวลารีมาร์เก็ตติ้ง (Lookback Window): สินค้าตัดสินใจเร็ว (7–14 วัน), สินค้าตัดสินใจนาน (30–90 วัน) ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาจจะตัดสินใจนาน ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ลูกค้าตัดสินใจรวดเร็ว
  • Frequency Cap: จำกัดความถี่ต่อคนต่อวัน/สัปดาห์ ลดความรำคาญและค่าโฆษณาสูงเกินจำเป็น
  • Exclusion Rules: ตัดผู้ที่ซื้อแล้ว/ส่งฟอร์มแล้ว ออกจากกลุ่มเป้าหมายที่ทำโฆษณา
  • Event/Conversion Setup: ตรวจว่าเหตุการณ์ยิงถูกต้องทั้งฝั่ง Google และ Meta (เชื่อม GA4, ตั้งค่า Conversions ให้ถูก, ใช้ CAPI บน Facebook)

วัดผลให้เป็น แล้วต่อยอดสิ่งที่เวิร์ก

เมตริกหลัก: Conversion Rate, Cost per Conversion, Revenue/ROAS (อีคอม), Click-through Rate ของรีมาร์เก็ตติ้ง, View-through/Engaged-view (YouTube)

เช็กลิสต์ A/B Test:

  • ครีเอทีฟ (Hook, มุมเล่าเรื่อง, ความยาววิดีโอ)
  • ข้อเสนอ (ส่วนลด/ของแถม/ทดลองฟรี)
  • กลุ่มผู้ชม (Hot/Warm ต่างกัน, Lookalike vs Website Visitors)
  • หน้า Landing Page (หัวข้อ, รูปแบบฟอร์ม, Proof)

อธิบายเมตริกเบื้องต้น

  • Conversion Rate: อัตราส่วนของผู้ที่ทำตามเป้าหมาย (เช่น ซื้อ/ส่งฟอร์ม) ต่อจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด
  • Cost per Conversion: ค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปต่อ 1 การคอนเวิร์ชัน
  • Revenue/ROAS: รายได้ที่เกิดขึ้นเทียบกับงบโฆษณาที่ใช้ไป วัดความคุ้มค่าในการลงทุน
  • Click-through Rate (CTR): อัตราส่วนคนที่เห็นโฆษณาแล้วคลิกเข้ามา
  • View-through/Engaged-view (YouTube): การนับผลลัพธ์จากผู้ที่เห็นโฆษณาแต่ไม่ได้คลิกทันที แต่กลับมาดำเนินการภายหลัง หรือดูวิดีโอจนถึงจุดที่ถือว่ามีส่วนร่วม

ใช้ AI ช่วยเขียนครีเอทีฟรีมาร์เก็ตติ้งให้ไวขึ้น (เสริม)

ถ้าทีมมีเวลา/คนจำกัด ลองใช้ AI เป็นผู้ช่วยร่างไอเดียและมุมครีเอทีฟ/คอนเทนต์ เพื่อช่วยทีมทำงานได้เร็วขึ้น และมีไอเดียหลากหลายมากขึ้น สนใจพัฒนาทักษะ ลองดู คอร์สเรียน ChatGPT หรือ คอร์สเรียน Gemini


ความผิดพลาดที่เจอบ่อย

  • ยิงรีมาร์เก็ตติ้งไปคนซื้อแล้วโดยไม่ Exclude → สิ้นเปลืองและสร้างประสบการณ์ลบ
  • ยัดข้อเสนอเดียวให้ทุกคน → ไม่ตรงเจตนาของแต่ละกลุ่ม (Hot/Warm/Cold)
  • ไม่จำกัดความถี่ → โฆษณาล้าหลัง/ลูกค้ารำคาญ
  • ไม่ตั้ง Conversion/GA4 → ตัดสินใจจากตัวเลขที่ไม่ชี้ผลลัพธ์จริง

สรุป: ทำให้แม่น ทำให้ตรง และทำให้พอดี

รีมาร์เก็ตติ้งคือ การสื่อสารซ้ำอย่างมีเจตนาและความพอดี เริ่มจากแบ่งกลุ่มผู้ชมให้ถูก ข้อเสนอที่โดนใจ ครีเอทีฟที่ดึงดูด และวัดผลเพื่อต่อยอด ถ้าต้องการพาร์ทเนอร์ช่วยวางแผน/ตั้งค่า/ทำครีเอทีฟให้จบในที่เดียว ติดต่อทีม SME Jump ได้เลย — เราเป็น บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ และ Premier Google Partner Thailand พร้อมดูแลทั้งฝั่ง Google Ads และ Facebook Ads อย่างโปร่งใสและวัดผลได้จริง

แจก E-book Google VS Facebook ฟรี!!!

เพียงส่งโค้ดในหน้าเว็บนี้เข้ามาที่ไลน์

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!






    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน