Productivity Apps 2025

แนะนำ Productivity Apps 2025

ปี 2025: ถึงเวลาปรับเปลี่ยนเครื่องมือจัดการชีวิต

ในปี 2025 นี้เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลโดยเฉพาะแอปต่างๆบนมือถือ หากคุณยังใช้สมุดโน้ตและกระดาษ Post-it เป็นหลักในการจัดการงานหรือชีวิตประจำวัน อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาเปลี่ยนมาใช้ Productivity Apps ที่สามารถช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน ฟรีแลนซ์ เจ้าของกิจการ พ่อแม่บ้าน หรือพนักงานออฟฟิศ แอปเหล่านี้สามารถปรับใช้ให้เหมาะกับทุกบทบาทในชีวิตได้อย่างลงตัว วันนี้เราได้รวบร่วมแอปที่น่าสนใจในปี 2025 สำหรับการทำงานและการใช้ในชีวิตประจำวัน

หมวดการจัดการงานและโปรเจกต์

Notion

Notion ถือเป็นแอปสารพัดประโยชน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมวดนี้ ไม่ใช่เพียงแค่แอปสำหรับจดบันทึก แต่ยังเป็นศูนย์กลางการจัดการงานระดับมืออาชีพ ผู้ใช้สามารถสร้าง To-do List, วางแผนโปรเจกต์, สร้างฐานข้อมูล, บันทึกโครงสร้างเนื้อหา และแม้กระทั่งสร้างเว็บไซต์ได้ในแอปเดียว

จุดเด่นของ Notion อยู่ที่ระบบ Template ที่หลากหลาย ซึ่งครอบคลุมทุกสายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ทีม Startup หรือผู้จัดการด้านคอนเทนต์ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ AI ที่สามารถช่วยสรุปเนื้อหา ตอบคำถาม และเขียนย่อหน้าให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งตอบโจทย์ยุคสมัยที่ความเร็วในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ

Notion Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรีสำหรับบุคคลทั่วไป มีฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น จดบันทึก สร้างหน้า ทำ To-do list
• Plus Plan ($8/ผู้ใช้/เดือน): เหมาะกับฟรีแลนซ์หรือทีมเล็ก เพิ่มความสามารถในการจัดการข้อมูลและปรับแต่งได้มากขึ้น
• Business Plan ($15/ผู้ใช้/เดือน): สำหรับทีมขนาดกลาง เพิ่มระบบการอนุมัติ ความปลอดภัย และสิทธิ์การเข้าถึงขั้นสูง
• Enterprise Plan: เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ต้องติดต่อฝ่ายขายโดยตรง

Notion สามารถเริ่มใช้งานได้ฟรี และอัปเกรดได้ตามความต้องการ

Todoist

สำหรับผู้ที่ต้องการระบบจัดการรายการงานแบบตรงไปตรงมา แต่ทรงพลัง Todoist คือคำตอบ แอปนี้ใช้งานง่าย แต่แฝงไปด้วยฟีเจอร์ระดับมืออาชีพ เช่น การกำหนดวันครบกำหนด การจัดลำดับความสำคัญของงาน และการแชร์โปรเจกต์ให้ทีม

Todoist ยังมีระบบแจ้งเตือนแบบ Real-time และสามารถซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าคุณจะเริ่มงานจากคอมพิวเตอร์ที่บ้าน แล้วไปทำต่อที่ออฟฟิศหรือโทรศัพท์มือถือ ก็ไม่มีสะดุด

Todoist Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรี รองรับฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การเพิ่มงาน รายการย่อย และซิงค์ข้ามอุปกรณ์
• Pro Plan ($4/เดือน): สำหรับผู้ใช้รายบุคคลที่ต้องการฟีเจอร์เพิ่ม เช่น Reminder, Labels, และ Themes
• Business Plan ($6/ผู้ใช้/เดือน): สำหรับทีม มีฟีเจอร์ Collaboration เต็มรูปแบบ เช่น การมอบหมายงานและ Timeline

Todoist สามารถเริ่มใช้งานได้ฟรี และสามารถอัปเกรดได้เมื่อต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม

Asana

หากคุณทำงานเป็นทีมและต้องการติดตามโปรเจกต์แบบเป็นระบบ Asana คือทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยระบบ Task Management ที่สามารถตั้ง Timeline และติดตามความคืบหน้าของงานได้แบบ Visualized แถมยังรวมเข้ากับแอปยอดนิยมอย่าง Slack, Zoom, Google Drive ได้อย่างไร้รอยต่อ

Asana Pricing:

• Basic Plan: ฟรี สำหรับบุคคลทั่วไป ใช้ได้กับงานพื้นฐาน เช่น การสร้าง Task และ Project
• Premium Plan ($10.99/ผู้ใช้/เดือน): เพิ่มฟีเจอร์ Timeline, Workflow Automation และ Reporting Tools
• Business Plan ($24.99/ผู้ใช้/เดือน): เหมาะกับทีมองค์กร เพิ่มเครื่องมือการจัดการขั้นสูง เช่น Portfolios และ Goals
• Enterprise Plan: ต้องติดต่อฝ่ายขายโดยตรง เพื่อระบบความปลอดภัยและปรับแต่งองค์กร

Asana มีเวอร์ชันฟรีให้เริ่มต้นใช้งาน และสามารถอัปเกรดเมื่อจำเป็น

หมวดการสื่อสารและทำงานร่วมกัน

Slack

Slack เป็นแอปที่ถูกออกแบบมาสำหรับการสื่อสารในทีม โดยเน้นให้สามารถแยกการสนทนาเป็น Channel ตามแผนกหรือโปรเจกต์ ช่วยให้การสื่อสารเป็นระบบ ไม่ต้องปวดหัวกับการเลื่อนหาข้อความในไลน์อีกต่อไป

นอกจากนี้ Slack ยังสามารถ Integrate กับเครื่องมืออื่นได้หลากหลาย เช่น Google Calendar, Google Meet, ClickUp และ Trello ทำให้สามารถทำงานแบบ Workflow ได้อย่างครบวงจรในที่เดียว

Slack Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรี เหมาะกับทีมขนาดเล็ก ให้ประวัติข้อความย้อนหลัง 90 วัน และสามารถเชื่อมต่อแอปได้สูงสุด 10 ตัว
• Pro Plan ($7.25/ผู้ใช้/เดือน): เพิ่มประวัติข้อความไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์การโทร, การแชร์ไฟล์ และ Integrations แบบไม่จำกัด
• Business+ Plan ($12.50/ผู้ใช้/เดือน): เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ เพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น SSO และการ Export ข้อมูล
• Enterprise Grid: สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีหลายทีมและต้องการการควบคุมระดับสูง ต้องติดต่อฝ่ายขาย

Slack เปิดให้ทดลองใช้ฟรีในแผน Pro และ Business+ ได้ระยะหนึ่งก่อนตัดสินใจสมัคร และสามารถใช้งานฟรีได้ทันทีในแผนพื้นฐาน

Grammarly

ในยุคที่การเขียนภาษาอังกฤษกลายเป็นทักษะสำคัญ Grammarly กลายเป็นตัวช่วยที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องเขียนอีเมล รายงาน หรือโพสต์ต่าง ๆ อย่างมืออาชีพ

Grammarly ไม่เพียงแค่ตรวจสอบคำผิด แต่ยังช่วยปรับสไตล์การเขียนให้เหมาะกับบริบท เช่น ในกรณีของอีเมลสมัครงาน ก็สามารถปรับโทนให้ดูเป็นทางการมากขึ้นได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งเวอร์ชันล่าสุดยังมีฟีเจอร์ AI ที่สามารถช่วยเขียนประโยคใหม่ได้ทั้งชุด

Grammarly Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรี เหมาะสำหรับการตรวจคำผิดพื้นฐานและปรับไวยากรณ์ทั่วไป
• Premium Plan (ประมาณ $12/เดือน): เพิ่มฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การตรวจสอบโทนภาษา คำแนะนำการเขียน และสไตล์การสื่อสารในบริบทต่าง ๆ
• Business Plan ($15/ผู้ใช้/เดือน): เหมาะกับทีมและองค์กร เพิ่มฟีเจอร์การวิเคราะห์ทีม การตั้ง Style Guide และการควบคุมผู้ใช้

Grammarly เปิดให้ทดลองใช้ฟรีในแผน Premium และ Business ช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ และมีเวอร์ชันฟรีให้ใช้งานได้ทันที

หมวดการจดบันทึกและจัดการความรู้

Evernote

Evernote ยังคงเป็นหนึ่งในแอปจดบันทึกอันดับต้น ๆ ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกข้อความ รูปภาพ เสียง หรือแนบไฟล์จากอีเมล จุดเด่นอยู่ที่ระบบค้นหาที่รวดเร็ว และเทมเพลตที่เหมาะสำหรับหลายสถานการณ์ เช่น รายการสิ่งที่ต้องทำ สรุปการประชุม และแผนโครงการ

Evernote Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรี มีฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น การจดบันทึก ซิงค์ระหว่างอุปกรณ์ 2 เครื่อง และระบบค้นหาโน้ต
• Personal Plan ($14.99/เดือน): สำหรับผู้ใช้รายบุคคล เพิ่มพื้นที่จัดเก็บ การเชื่อมต่อกับ Google Calendar และการใช้งานออฟไลน์
• Professional Plan ($17.99/เดือน): เพิ่มฟีเจอร์ด้าน Productivity เช่น แดชบอร์ดแบบปรับแต่งได้ และการค้นหาขั้นสูง
• Teams Plan: สำหรับทีมองค์กร มีการจัดการผู้ใช้และการแชร์ Workspace ต้องติดต่อฝ่ายขายเพื่อขอใบเสนอราคา

Evernote มีเวอร์ชันฟรีให้เริ่มต้นใช้งาน และสามารถทดลองใช้ฟรีแผนแบบเสียเงินได้ก่อนตัดสินใจ

Obsidian

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการจดบันทึกเชิงลึกและการเชื่อมโยงความคิด Obsidian คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แอปนี้รองรับการจดโน้ตด้วย Markdown และสามารถสร้างลิงก์ระหว่างโน้ตเพื่อสร้างระบบความรู้แบบเชื่อมโยงที่เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับนักวิจัย นักเขียน หรือใครก็ตามที่ต้องการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ

Obsidian ยังมีปลั๊กอินเสริมมากมาย เช่น Knowledge Timeline และระบบ AI ช่วยจัดกลุ่มโน้ตอัตโนมัติ ทำให้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการบริหารคลังความรู้ส่วนตัว

Obsidian Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรีเต็มรูปแบบ ไม่มีข้อจำกัดในการสร้างโน้ตหรือเชื่อมโยงข้อมูล เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและนักพัฒนา
• Catalyst License (เริ่มต้นที่ $25/ครั้งเดียว): สำหรับผู้ที่ต้องการสนับสนุนทีมพัฒนาและเข้าถึงฟีเจอร์ Experimental ก่อนใคร
• Commercial License ($50/ผู้ใช้/ปี): สำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์ เช่น บริษัทหรือทีมงาน

Obsidian เปิดให้ใช้งานฟรีแบบไม่จำกัดฟีเจอร์หลัก และสามารถเลือกอัปเกรดหรือทดลองใช้ฟรีฟีเจอร์พรีเมียมได้ตามความเหมาะสม

หมวดการจัดการเวลาและตารางนัดหมาย

Google Calendar

Google Calendar ยังคงเป็นแอปจัดการเวลาอันดับหนึ่ง ด้วยความสามารถในการซิงค์กับบัญชี Gmail ได้ทันที ผู้ใช้สามารถสร้างกิจกรรม นัดหมาย และตั้งค่าการแจ้งเตือนได้หลายรอบตามต้องการ

ไม่ว่าจะเป็นการนัดประชุมออนไลน์ แชร์ลิงก์การเข้าร่วม หรือปรับเวลานัดแบบ Real-time Google Calendar สามารถจัดการได้ทั้งหมดในไม่กี่คลิก ทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการปรับใช้ตามบริบทต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

ราคาและแผนบริการของ Google Calendar

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่มีบัญชี Gmail ครอบคลุมฟีเจอร์หลักทั้งหมด เช่น การสร้างกิจกรรม การแจ้งเตือน และการเชิญผู้อื่น
• Business Plan (รวมอยู่ใน Google Workspace เริ่มต้นที่ $6/ผู้ใช้/เดือน): เพิ่มฟีเจอร์เสริม เช่น การจองห้องประชุม แชร์ปฏิทินในทีม การรวมกับ Gmail และการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง

Google Calendar เปิดให้ใช้งานฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และสามารถทดลองใช้ฟรี Google Workspace ได้ก่อนตัดสินใจสมัคร

หมวดการบริหารโปรเจกต์แบบ Collaboration

Trello

Trello เป็นแอปที่โดดเด่นในด้านการจัดการโปรเจกต์แบบ Kanban Board ผู้ใช้สามารถลากและวางการ์ดเพื่อจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับการวางแผนคอนเทนต์ การติดตามโปรเจกต์ หรือการแบ่งงานภายในทีม

Trello ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ครบถ้วนแม้ในเวอร์ชันฟรี และสามารถเชื่อมต่อกับแอปอื่น เช่น Google Drive และ Slack เพื่อขยายความสามารถในการทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ

Trello Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรี รองรับบอร์ดไม่จำกัด การ์ดไม่จำกัด และสามารถเพิ่มสมาชิกได้หลายคน เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและทีมเล็ก
• Standard Plan ($5/ผู้ใช้/เดือน): เพิ่มฟีเจอร์เช่น Checklists ขั้นสูง, การจัดการสิทธิ์ และการ Integrate กับแอปอื่นๆ แบบไม่จำกัด
• Premium Plan ($10/ผู้ใช้/เดือน): สำหรับทีมที่ต้องการฟีเจอร์การมองเห็นหลายมุมมอง เช่น Timeline, Dashboard, และปฏิทิน
• Enterprise Plan (ราคาตามจำนวนผู้ใช้): เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูงและการควบคุมการเข้าถึงระดับองค์กร

Trello เปิดให้ทดลองใช้ฟรีในแผน Premium และ Enterprise ก่อนตัดสินใจซื้อ และสามารถใช้งานฟรีได้ทันทีในแผนพื้นฐาน

Monday.com

หากคุณต้องการระบบที่สามารถปรับแต่งการทำงานในองค์กรได้อย่างลึกซึ้ง Monday.com คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ แอปนี้สามารถสร้าง Workflow แบบเฉพาะตัวได้ ตั้งแต่ระบบอนุมัติงาน ไปจนถึง Dashboard วิเคราะห์ข้อมูล

เหมาะกับทีมขนาดกลางถึงใหญ่ เช่น ทีมเทคโนโลยี การตลาด หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคล ที่ต้องการระบบที่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลและการทำงานได้แบบ End-to-End

Monday.com Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรี สำหรับทีมเล็ก ใช้ได้สูงสุด 2 คน รองรับฟีเจอร์พื้นฐาน เช่น Kanban Board, สร้าง Task และ Timeline เบื้องต้น
• Basic Plan ($9/ผู้ใช้/เดือน): เพิ่มการจัดการข้อมูลและ Dashboard สำหรับมอนิเตอร์งานภายในทีม
• Standard Plan ($12/ผู้ใช้/เดือน): เพิ่มการดูข้อมูลในหลายมุมมอง เช่น Timeline, Calendar และ Gantt พร้อมการ Integrate กับแอปภายนอก
• Pro Plan ($19/ผู้ใช้/เดือน): สำหรับทีมที่ต้องการการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น Time Tracking, Automation และ Dashboards ขั้นสูง
• Enterprise Plan: สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ต้องติดต่อฝ่ายขายโดยตรงเพื่อกำหนดแผนตามความต้องการ

Monday.com เปิดให้ทดลองใช้ฟรีในแผนแบบเสียเงิน 14 วัน และสามารถใช้งานแผนฟรีได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

แอปน่าสนใจอื่น ๆ ในปี 2025

ClickUp

ClickUp กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในไทย เนื่องจากสามารถรวมความสามารถของ Notion, Asana และ Trello ไว้ในแอปเดียว ทั้งการจดบันทึก การจัดการโปรเจกต์ และการวิเคราะห์งาน

ClickUp มีอินเตอร์เฟซที่ปรับแต่งได้สูง และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ทีมสามารถปรับรูปแบบการทำงานให้เข้ากับลักษณะงานของตนเองได้อย่างลงตัว

ClickUp Pricing:

• Free Plan: ใช้งานได้ฟรี เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป มีฟีเจอร์พื้นฐานครบ เช่น Task Management, Docs และ Whiteboards
• Unlimited Plan ($7/ผู้ใช้/เดือน): สำหรับทีมเล็ก เพิ่มฟีเจอร์ Unlimited Dashboards, Integrations และ Guests
• Business Plan ($12/ผู้ใช้/เดือน): เพิ่มฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น Timeline, Goal Tracking, และการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง
• Enterprise Plan: เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เพิ่มระบบความปลอดภัยและการจัดการขั้นสูง ต้องติดต่อฝ่ายขาย

ClickUp สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ฟรี และมีตัวเลือกทดลองใช้ฟรีแผนแบบเสียเงินก่อนตัดสินใจสมัคร

สรุป:Productivity Apps 2025

แม้จะมี Productivity Apps มากมายให้เลือก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการ “ลงมือเริ่มใช้” เพราะแอปที่ดีที่สุดคือแอปที่คุณใช้จริงเป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องใช้หลายแอปในครั้งเดียว แค่เลือกมาสัก 1-2 ตัวที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ แล้วใช้ให้ต่อเนื่อง

เชื่อว่าภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ คุณจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำงาน การวางแผน และการจัดการชีวิตอย่างชัดเจน

เกี่ยวกับ SMEJUMP

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่กำลังมองหาแนวทางขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายแบบยั่งยืน การมีเครื่องมือ Productivity ที่ดีเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น การวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้

SMEJUMP คือผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร พร้อมให้บริการตั้งแต่การทำโฆษณาบน Google และ Facebook การออกแบบเว็บไซต์ ไปจนถึงการวางแผนคอนเทนต์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยทีมงานมืออาชีพที่เข้าใจธุรกิจ SME อย่างแท้จริง