วิธีการใช้ Performance Max

แสดงผลโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ Google เช่น Search, YouTube, Display, Discovery, Gmail และ Maps

วิธีการใช้ Performance Max

Performance Max คืออะไร

Performance Max (Pmax) เป็นแคมเปญโฆษณาอัตโนมัติที่ Google เปิดตัวเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผลโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ ของ Google เช่น Search, YouTube, Display, Discovery, Gmail และ Maps โดยใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ให้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

Performance Max จะช่วยผู้ลงโฆษณาในการรวมข้อมูลและสร้างกลยุทธ์โฆษณาแบบรวมศูนย์ โดยเน้นการเพิ่ม Conversion หรือ ROI ให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้  SMEJUMP รับทำโฆษณา Google Ads ขอนำเสนอบทความเพื่อแนะนำวิธีการใช้ Performance Max เพื่อเสริมการทำโฆษณาออนไลน์ของคุณ


ทำไมควรใช้ Pmax คู่กับ Search Ads

  1. ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น: Performance Max ช่วยให้โฆษณาของคุณเข้าถึงผู้ใช้งานผ่านหลากหลายแพลตฟอร์มของ Google เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้าง Conversion ซึ่งแตกต่างจากโฆษณารูปแบบอื่นที่มักเน้นการสร้าง Brand Awareness บนหลากหลายแพลตฟอร์ม ในขณะที่ Search Ads เน้นการแสดงผลตามคำค้นหา
  2. เพิ่มประสิทธิภาพ: เมื่อใช้ร่วมกับ Search Ads คุณสามารถปรับกลยุทธ์การแสดงผลโฆษณาเพื่อให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาสินค้าโดยตรงและผู้ที่สนใจแต่ไม่ได้ค้นหาโดยตรง การใช้ Performance Max รันคู่กับ Search Ads จะเป็นแคมเปญที่ทำงานส่งเสริมกันที่เรียกว่า Power Pair เพื่อทำให้ระบบโฆษณาสามารถใช้ข้อมูลจาก Search Ads ในการค้นหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายบนแพลตฟอร์มอื่นๆ
  3. ข้อมูลที่ครบถ้วน: การใช้งานร่วมกันช่วยให้คุณได้รับข้อมูล Insight ที่ครอบคลุมและสามารถปรับปรุงกลยุทธ์ได้แบบเรียลไทม์ ด้วยการใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ระบบจะสามารถคาดการณ์และปรับเปลี่ยนการแสดงโฆษณาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละแพลตฟอร์มได้อย่างแม่นยำ

รูปแบบโฆษณาของ Pmax มีอะไรบ้าง

โฆษณา Performance Max สามารถแสดงโฆษณาได้หลายรูปแบบและครอบคลุมเกือบทุกแพลตฟอร์มของ Google โดยรูปแบบที่สามารถใช้ได้มีดังนี้:

  1. ข้อความโฆษณา (Text Ads): เน้นข้อความที่น่าสนใจและกระชับ
  2. รูปภาพ (Image Ads): รูปภาพที่ดึงดูดใจและสะท้อนแบรนด์
  3. วิดีโอ (Video Ads): วิดีโอสั้นที่กระตุ้นความสนใจในทันที
  4. สินค้าหรือบริการ (Product Listings): แสดงรายการสินค้าพร้อมราคาและรายละเอียด
  5. โฆษณาบนแผนที่ (Local Ads): เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านและต้องการเพิ่ม Traffic ไปยังสาขา

ข้อมูลและขนาดภาพที่จะต้องจัดเตรียม Pmax

  1. ภาพหลัก:
    • ขนาด 1200 × 628 พิกเซล (อัตราส่วน 1.91:1)
    • ขนาด 1080 × 1080 พิกเซล (อัตราส่วน 1:1)
  2. โลโก้:
    • ขนาด 512 × 512 พิกเซล (อัตราส่วน 1:1)
  3. รูปภาพเพิ่มเติม:
    • ขนาด 1200 × 1200 พิกเซล (อัตราส่วน 1:1)
    • ขนาด 960 × 1200 พิกเซล (อัตราส่วน 4:5)
  4. ข้อกำหนด:
    • ไฟล์รูปภาพควรมีความละเอียดสูงและไม่เกิน 5MB

ข้อมูลและวิดีโอที่จะต้องจัดเตรียมสำหรับ Pmax

  1. วิดีโอแนวตั้ง:
    • ขนาด 1080 × 1920 พิกเซล (อัตราส่วน 9:16)
    • ความยาวไม่เกิน 15 วินาที
  2. วิดีโอแนวนอน:
    • ขนาด 1920 × 1080 พิกเซล (อัตราส่วน 16:9)
    • ความยาวไม่เกิน 30 วินาที
  3. ข้อกำหนด:
    • วิดีโอควรมีความละเอียดระดับ HD หรือสูงกว่า
    • ใช้ไฟล์ MP4 หรือ MOV และขนาดไฟล์ไม่เกิน 500MB

กลุ่มเป้าหมายที่สามารถเลือกได้

  1. กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง (Custom Audiences): ระบุพฤติกรรม ความสนใจ หรือคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง
  2. กลุ่มเป้าหมายที่มีข้อมูลอยู่แล้ว (Customer Match): ใช้ข้อมูลจากลูกค้า เช่น อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์
  3. กลุ่มเป้าหมายตามตำแหน่งที่ตั้ง: เลือกพื้นที่เฉพาะ เช่น เมืองหรือประเทศ
  4. กลุ่มเป้าหมายแบบ Remarketing: กลุ่มคนที่เคยเข้าเว็บไซต์

วิธีติดตั้งคอนเวอร์ชั่นสำหรับ Pmax

ก่อนติดตั้งคอนเวอร์ ควรวิเคราะห์สิ่งที่ต้องการให้ผู้ที่เข้าเว็บไซต์กระทำ เช่น กดปุ่มสั่งซื้อ กดปุ่ม LINE เพิ่มเพื่อน หรือ กรอกข้อมูลลงทะเบียน และจัดวาง Call-to-action ที่ต้องการให้เหมาะสมบนหน้าเว็บไซต์

  1. เข้าไปที่ Google Ads และเลือก Tools & Settings
  2. เลือก Conversions ในหมวด Measurement
  3. คลิก + New Conversion Action
  4. ระบุประเภท Conversion เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือโทรศัพท์
  5. ติดตั้งโค้ด Conversion Tracking ในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของคุณ

ทำไมต้องทำคอนเวอร์ชั่น

แคมเปญ Performance Max ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างคอนเวอร์ชั่น ดังนั้นถ้าคุณต้องการใช้โฆษณารูปแบบนี้ คุณจำเป็นต้องติดตั้งคอนเวอร์ชั่นบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อจะช่วยทำให้โฆษณาแสดงได้มีประสิทธิภาพสูงสุด

  1. วัดผลลัพธ์: ช่วยให้คุณทราบว่าแคมเปญโฆษณามีผลกระทบต่อเป้าหมายอย่างไร คุณสามารถวัดผลจำนวนคอนเวอร์ชั่น และต้นทุนต่อคอนเวอร์ชั่น เพื่อดูความคุ้มค่าของงบโฆษณาที่ใช้ไป
  2. ปรับปรุงประสิทธิภาพ: ข้อมูล Conversion ช่วยให้ Google Ads ปรับการแสดงผลให้ดียิ่งขึ้น ผลลัพธ์จำนวนคอนเวอร์ชั่น เป็นตัวชี้วัดที่ดี ที่ทำให้เห็นแนวทางในการปรับปรุงแคมเปญ รวมถึงคอนเทนต์ และตัวโฆษณา
  3. บริหารงบประมาณ: ช่วยให้ใช้งบโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนต่อ Conversion ผลลัพธ์คอนเวอร์ชั่นช่วยให้ระบบ AI สามารถปรับการใช้งบโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความแตกต่างระหว่าง Performance Max และ Search Ads

หัวข้อ Performance Max Search Ads
วัตถุประสงค์หลัก เน้นการเพิ่ม Conversion เน้นการแสดงผลเมื่อมีการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด
ช่องทางการแสดงผล ครอบคลุมทุกช่องทางของ Google (Search, YouTube, ฯลฯ) เฉพาะหน้าผลการค้นหาใน Google
การใช้ AI ใช้ AI ในการปรับปรุงผลลัพธ์และการกำหนดเป้าหมาย ใช้ข้อมูลคีย์เวิร์ดเป็นหลัก
รูปแบบโฆษณา รองรับหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอ รูปภาพ ข้อความ เน้นข้อความโฆษณาที่ปรากฏในผลการค้นหา
ข้อมูลที่ใช้กำหนดเป้าหมาย ใช้ข้อมูลจาก Conversion, Remarketing และ AI ใช้คีย์เวิร์ดและการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายด้วยตนเอง

ความแตกต่างระหว่าง Performance Max และ GDN

หัวข้อ Performance Max Google Display Network (GDN)
ช่องทางการแสดงผล ครอบคลุมทุกช่องทางของ Google เฉพาะเครือข่าย Display
การใช้ AI ใช้ AI ปรับปรุงแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ต้องตั้งค่าด้วยตัวเองส่วนใหญ่
รูปแบบโฆษณา รวม Text, Video, Image และอื่น ๆ เน้น Image และ Banner Ads
การกำหนดเป้าหมาย ใช้ข้อมูลหลายแหล่งเพื่อกำหนดเป้าหมาย เน้นกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ
ความเหมาะสม เหมาะสำหรับการเพิ่ม Conversion เหมาะสำหรับการเพิ่มการมองเห็น

ความแตกต่างระหว่าง Performance Max และ Facebook Ads

หัวข้อ Performance Max Facebook Ads
วัตถุประสงค์หลัก เน้นการเพิ่ม Conversion เน้นการสร้าง Brand Awareness และ Engagement
ช่องทางการแสดงผล ครอบคลุมทุกช่องทางของ Google (Search, YouTube, ฯลฯ) เครือข่าย Facebook, Instagram และ Messenger
การใช้ AI ใช้ AI ในการปรับปรุงผลลัพธ์และการกำหนดเป้าหมาย ใช้ AI ในการกำหนดเป้าหมายและเพิ่มการมีส่วนร่วม
รูปแบบโฆษณา รองรับหลายรูปแบบ เช่น วิดีโอ รูปภาพ ข้อความ รูปภาพ, วิดีโอ, Stories, Carousel
ข้อมูลที่ใช้กำหนดเป้าหมาย ใช้ข้อมูลจาก Conversion, Remarketing และ AI ใช้ข้อมูลพฤติกรรม, ความสนใจ และ Lookalike

สรุป: วิธีการใช้ Performance Max

Performance Max เป็นแคมเปญโฆษณาอัตโนมัติที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างคอนเวอร์ชั่น ครอบคลุมทุกช่องทางของ Google และสามารถใช้งานร่วมกับ Search Ads เพื่อเสริมศักยภาพในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ


ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

    ชื่อ-สกุล
    มือถือ
    E-Mail
    ข้อความ


    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน

    ข้อมูลบริษัท

    บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

    79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

    เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

    Email: contact@smejump.com

    Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

    LINE : @smejump

    จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

    เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ