ออกแบบภาพยิงแอดบน Facebook

5 คำแนะนำในการออกแบบภาพสำหรับยิงแอดบน Facebook

ออกแบบภาพยิงแอดบน Facebook : 5 เคล็ดลับการทำภาพ

การใช้ภาพที่เหมาะสมสำหรับการโพสต์บน Facebook มีบทบาทสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย และช่วยเสริมสร้างแบรนด์ให้มีภาพลักษณ์ที่ต้องการ ภาพที่ดึงดูดสายตาจะช่วยเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) และทำให้ข้อความโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้นและกระตุ้นให้เกิดความสนใจมากขึ้น การออกแบบภาพที่ดีจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้โฆษณาบน Facebook ประสบความสำเร็จ

SMEJUMP รับทำโฆษณา Facebook Ads ขอนำเสนอบทความเพื่อแสดงแนวทางการออกแบบภาพสำหรับการยิงแอด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Facebook Ads

1. ใช้ภาพที่แสดงถึงประโยชน์และคุณค่า

การเลือกภาพสำหรับแบนเนอร์โฆษณาบน Facebook ควรเน้นไปที่การแสดงผลลัพธ์หรือประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับคอนเทนต์ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาหรือปรับปรุงชีวิตของพวกเขามากกว่าคอนเทนต์ที่มุ่งเน้นการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว เช่น หากคุณขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว การใช้ภาพของผลิตภัณฑ์ขณะถูกใช้งานจริง เช่น การทาครีมลงบนผิวอย่างนุ่มนวล หรือการโชว์เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิด จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจถึงคุณค่าและประสบการณ์ในการใช้งานได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ การเลือกภาพควรสัมพันธ์กับไลฟ์สไตล์หรือความสนใจของกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างแรงดึงดูดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง ควรเลือกใช้โทนสีที่เหมาะสมกับราคาสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากเป็นสินค้าพรีเมียม ควรใช้สีที่ให้ความรู้สึกหรูหรา เช่น สีทอง สีดำ หรือสีกรมท่า ในขณะที่สินค้าสำหรับวัยรุ่นอาจเลือกใช้สีสันสดใสเพื่อสร้างพลังและความน่าสนใจ

2. ใช้ข้อความที่ชัดเจนและกระชับ

ภาพที่สวยงามเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรเพิ่มข้อความบนภาพที่มี Key Message ชัดเจนและกระชับ เช่น “ลดสูงสุด 50% วันนี้เท่านั้น” หรือ “สูตรใหม่ที่เห็นผลใน 7 วัน” ข้อความเหล่านี้ควรอ่านง่ายและเด่นชัด นอกจากนี้ การใช้ Key Message ถือเป็นสิ่งที่ต้องมีบนภาพโฆษณา หรือถ้าเป็นคอนเทนต์วิดีโอ ก็ควรทำภาพหน้าปกของวิดีโอพร้อม Key Message เพื่อดึงดูดความสนใจตั้งแต่แรกเห็นและช่วยเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายกดเข้าชม

สิ่งที่คุณควรทำเพิ่มเติมคือ การทดลองข้อความหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้คำถาม การบอกประโยชน์ หรือการใช้ Call-to-Action (CTA) อย่างชัดเจน เช่น “คลิกเพื่อดูเพิ่มเติม” เพื่อค้นหาว่ารูปแบบใดที่กระตุ้นการตอบสนองได้ดีที่สุด

3. ใช้สีที่สอดคล้องกับแบรนด์

โทนสีในภาพโฆษณาควรสอดคล้องกับสีหลักของแบรนด์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น หากแบรนด์ของคุณใช้สีหลักเป็นสีฟ้า ควรเลือกพื้นหลังหรือองค์ประกอบที่มีสีฟ้าเป็นหลัก และควรหลีกเลี่ยงการใช้สีที่ฉูดฉาดเกินไปจนทำให้ข้อความในภาพอ่านยาก

ลองนึกถึงโทนสีที่ธุรกิจธนาคารเลือกใช้ เมื่อคุณนึกถึงสีเขียว คุณอาจนึกถึงธนาคารที่มีภาพลักษณ์มั่นคงและเป็นมิตร หรือถ้าคุณเห็นสีชมพู คุณอาจเชื่อมโยงกับธนาคารที่มีความเป็นกันเองและเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อย แนวทางนี้สามารถนำมาปรับใช้กับโทนสีของแบรนด์คุณได้ เพื่อสร้างการจดจำและสื่อสารภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. เรียงลำดับข้อมูลตามความสำคัญ

การจัดวางองค์ประกอบในภาพโฆษณาควรเริ่มต้นด้วยข้อมูลที่สำคัญที่สุด ภาพที่แสดงเป็นภาพแรกมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งแรกที่ผู้ชมจะมองเห็น ภาพแรกควรแสดงถึงเนื้อหาหลักที่คุณต้องการนำเสนอ พร้อม Key Message ที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ทันทีว่าคุณต้องการนำเสนออะไร และอยากให้ผู้ชมทำอะไร

ตัวอย่างเช่น หากเป็นร้านอาหาร การใส่ภาพอาหารที่ดูน่ารับประทานไว้ส่วนบนสุดของภาพ พร้อมข้อมูลโปรโมชั่นหรือราคาที่อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่าย จะช่วยดึงดูดสายตาและกระตุ้นความสนใจได้ดีขึ้น หลีกเลี่ยงการใส่ข้อมูลเยอะเกินไป เพราะจะทำให้ภาพดูรกและลดความน่าสนใจ

5. ทดลองและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จของโฆษณาขึ้นอยู่กับการทดลองและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง หลังจากปล่อยโฆษณาแล้ว ควรวิเคราะห์ผลลัพธ์ เช่น Click-Through Rate (CTR) หรือ Engagement Rate เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุง เช่น การเปลี่ยนสีพื้นหลัง ปรับตำแหน่งข้อความ หรือเปลี่ยน Key Message ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทาง ข้อนี้คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการทำภาพบน Facebook คือการทดสอบและเรียนรู้จากผลลัพธ์ เพื่อนำมาปรับปรุงการทำภาพที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย


แนะนำขนาดภาพที่เหมาะสมสำหรับโพสต์บน Facebook

การเลือกขนาดภาพที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะภาพที่ถูกบีบอัดหรือไม่พอดีอาจลดคุณภาพของโฆษณาได้

  • ภาพในฟีดข่าว (Feed): 1,200 x 628 พิกเซล (อัตราส่วน 1.91:1)
  • ภาพแบบ Carousel: 1,080 x 1,080 พิกเซล (อัตราส่วน 1:1)
  • ภาพใน Stories: 1,080 x 1,920 พิกเซล (อัตราส่วน 9:16)
  • ภาพ Cover Page: 820 x 312 พิกเซล

แนะนำขนาดภาพที่เหมาะสมสำหรับโพสต์บน Instagram

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: อัปเดตล่าสุด! ขนาดโพสต์ Instagram 2025

  • โพสต์ในฟีด (Feed)
    • อัตราส่วน 1:1: ขนาด 1,080 x 1,080 พิกเซล
    • อัตราส่วน 4:5: ขนาด 1,080 x 1,350 พิกเซล
  • โพสต์ใน Stories
    • อัตราส่วน 9:16: ขนาด 1,080 x 1,920 พิกเซล
  • Reels
    • อัตราส่วน 9:16: ขนาด 1,080 x 1,920 พิกเซล

แนะนำรูปแบบและรายละเอียดวิดีโอสำหรับโพสต์บน Reels

Reels เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการสร้าง Engagement ได้สูง การออกแบบควรเน้นความสั้น กระชับ และดึงดูดสายตาตั้งแต่วินาทีแรก

  • ความยาววิดีโอ: 15-60 วินาที
  • ขนาดไฟล์สูงสุด: 4 GB
  • รูปแบบไฟล์: MP4 หรือ MOV
  • อัตราส่วน: 9:16

ควรใส่คำบรรยายหรือซับไตเติ้ลเพื่อช่วยเพิ่มความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ชมดูวิดีโอโดยปิดเสียง


แนะนำเครื่องมือสำหรับทำภาพบน Facebook

  • Canva: เครื่องมือออกแบบที่ใช้งานง่าย มีเทมเพลตสำหรับโฆษณา Facebook โดยเฉพาะ
  • Adobe Spark: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกแบบอย่างมืออาชีพ
  • Crello: อีกหนึ่งเครื่องมือฟรีที่มีฟีเจอร์คล้าย Canva
  • Figma: เหมาะสำหรับทีมงานที่ต้องการทำงานร่วมกันในโปรเจกต์
  • Piktochart: ใช้สำหรับการออกแบบ Infographic

เคล็ด 5 ข้อที่ช่วยทำให้โพสต์น่าสนใจและดึงดูดให้เกิด Engagement

  1. ใช้ภาพหรือวิดีโอที่มีคุณภาพสูง
    ภาพและวิดีโอที่มีคุณภาพสูงช่วยสร้างความประทับใจแรกเห็น
  2. เน้น Call-to-Action (CTA)
    ใส่ข้อความ CTA ที่กระตุ้นการคลิก เช่น “ช้อปเลย” หรือ “ดูรายละเอียด”
  3. เล่าเรื่องราว (Storytelling)
    การเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสินค้า เช่น ความสำเร็จของลูกค้า
  4. ตอบสนองต่อความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
    ใช้ข้อมูลจาก Insight ของ Facebook เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ตรงความต้องการ
  5. ใช้คำบรรยายที่สร้างความอยากรู้
    เช่น “ค้นพบเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณประหยัดได้มากกว่า 50%”

สรุป: ออกแบบภาพยิงแอดบน Facebook

การออกแบบภาพสำหรับโฆษณาบน Facebook ต้องคำนึงถึงการดึงดูดสายตาและการสื่อสารที่ชัดเจน การเลือกภาพที่แสดงถึงประโยชน์และคุณค่าของสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ ควรใช้ข้อความที่กระชับและโดดเด่นเพื่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การเลือกโทนสีที่เหมาะสมกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และสุดท้าย การทดลองและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องคือกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา เมื่อใช้คำแนะนำเหล่านี้ คุณจะสามารถสร้างภาพและคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจ และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของโฆษณาได้อย่างแน่นอน!

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

    ชื่อ-สกุล
    มือถือ
    E-Mail
    ข้อความ


    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน

    ข้อมูลบริษัท

    บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

    79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

    เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

    Email: contact@smejump.com

    Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

    LINE : @smejump

    จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

    เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ