Google AI เปลี่ยนเกมธุรกิจ: ยุคใหม่ของการค้นหาและการตลาดออนไลน์

Google กำลังยกระดับการค้นหาจากระบบที่อิงคีย์เวิร์ด สู่การค้นหาเชิงสนทนา (AI ขับเคลื่อนการค้นหา) ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลต่อทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค  การทำ SEO และการโฆษณา Google Ads โดยตรง บทความนี้จะอธิบายว่า AI Search คืออะไร ผลกระทบที่ตามมา และแนวทางปรับตัวสำหรับธุรกิจ

AI Search คืออะไร

AI Search หมายถึงการค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ต่างจากการค้นหาแบบเดิมที่พึ่งพาคีย์เวิร์ดสั้นๆ ในการค้นหาด้วย AI ผู้ใช้สามารถพิมพ์หรือพูดถามเป็นประโยคยาวๆได้ เช่น “อยากไปเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน มีคำแนะนำไหม” Google จะไม่เพียงแค่ดึงลิงก์เว็บไซต์มาแสดง แต่ยังสรุปข้อมูล แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม และลิงก์จองได้ในทันที

ดังนั้นสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการค้นหาแบบใหม่ ไม่ได้มุ่งแค่การค้นหาคำ แต่เข้าใจเจตนาที่แท้จริง (user intent) ของผู้ใช้ ทำให้ผลลัพธ์มีความครบถ้วนและตรงความต้องการมากขึ้น

ผลกระทบต่อการโฆษณาบน Google Ads

การค้นหาแบบใหม่นี้ ทำให้การโฆษณาเปลี่ยนจาก keyword targeting ไปสู่ intent targeting โดย AI จะใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มของ Google เช่น Chrome, YouTube และ Google Maps เพื่อคาดการณ์เจตนาของผู้ใช้ และแสดงโฆษณาที่สอดคล้องกับเส้นทางการตัดสินใจ

นอกจากนี้ ธุรกิจที่ต้องการใช้โฆษา Google Ads อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจระบบ และเทรนด์การค้นหาแบบใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับเป้าหมายการตลาดขององค์กร หากคุณกำลังมองหาทีมที่มีประสบการณ์ด้านนี้ สามารถพิจารณา บริษัททำ Google Ads ที่ให้บริการครบวงจร

คำแนะนำสำหรับผู้ทำโฆษณาในยุค AI

• ใช้เครื่องมือ Performance Max และ AI Max เพื่อกระจายโฆษณาได้ครอบคลุมและแม่นยำ
• ปรับกลยุทธ์จากการ Optimize คีย์เวิร์ด มาเป็นการ Optimize ตาม Intent
• เน้น Conversion ที่มีคุณภาพ เช่น การเก็บรายชื่อลูกค้า หรือข้อมูลเชิงลึกจากแบบฟอร์ม
• เลือกใช้แคมเปญที่เน้น Conversion มากกว่าการนับจำนวนคลิก
• พัฒนาเว็บไซต์ให้มีข้อมูลครบ เช่น รีวิว คำถามที่พบบ่อย วิดีโอ และบทความ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสให้ระบบค้นหาเลือกนำเสนอ

ผลกระทบต่อ SEO

SEO ได้รับผลกระทบโดยตรงเพราะ AI มักจะแสดงคำตอบสำเร็จรูปโดยที่ผู้ใช้อาจไม่ต้องคลิกลิงก์เข้าเว็บไซต์อีกต่อไป

สิ่งที่ธุรกิจควรทำ

• สร้างคอนเทนต์เชิงลึกที่ตอบคำถามได้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มโอกาสที่ข้อมูลจะถูกนำไปใช้
• ทำ Structured Data และ FAQ Schema ให้ AI เข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์ได้แม่นยำ
• ผลิตคอนเทนต์ที่หลากหลาย เช่น วิดีโอ อินโฟกราฟิก และรีวิวจากลูกค้าจริง
• เน้นหลักการ E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) เพื่อเพิ่มน้ำหนักด้านความน่าเชื่อถือ

สำหรับธุรกิจที่กำลังมองหาพาร์ทเนอร์เพื่อช่วยทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร สามารถพิจารณา บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ ที่พร้อมสนับสนุนการปรับตัวของธุรกิจในยุค AI

Schema คืออะไร

Schema คือโครงสร้างข้อมูล (Structured Data) ที่ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น การใส่ Schema ประเภทรีวิวสินค้า จะแสดงคะแนนดาวและจำนวนรีวิวในผลการค้นหา หรือการใส่ FAQ Schema ทำให้คำถาม-คำตอบปรากฏในหน้าค้นหาโดยตรง ตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์ร้านอาหารมี Schema เมนูอาหาร Google อาจแสดงเมนูพร้อมราคาในผลค้นหา ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าคลิกเข้ามา

E-E-A-T คืออะไร

E-E-A-T ย่อมาจาก Experience, Expertise, Authoritativeness, และ Trustworthiness เป็นหลักเกณฑ์ที่ Google ใช้ในการประเมินคุณภาพของเนื้อหาและเว็บไซต์

• Experience: ประสบการณ์ตรง ที่แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนหรือธุรกิจมีความเกี่ยวข้องจริง
• Expertise: ความเชี่ยวชาญในเนื้อหาที่นำเสนอ
• Authoritativeness: ความน่าเชื่อถือ และการได้รับการอ้างอิงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
• Trustworthiness: ความโปร่งใส และความน่าไว้วางใจของข้อมูลและเว็บไซต์

ดังนั้นเมื่อเว็บไซต์มีองค์ประกอบเหล่านี้ครบ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาของ Google และทำให้มีโอกาสถูกเลือกไปแสดงผลได้มากขึ้น

Google AI กำลังก้าวสู่ Agentic AI

อนาคตของการค้นหาจะไม่ได้หยุดแค่การแนะนำ แต่สามารถดำเนินการแทนผู้ใช้ได้ เช่น การวางแผนและจองทริปครบวงจร หากผู้ใช้ถาม Google เกี่ยวกับการเดินทาง AI สามารถจัดการหาตั๋ว โรงแรม และแพ็กเกจท่องเที่ยวตามงบประมาณได้ทันที สิ่งนี้อาจลดการเข้าชมเว็บไซต์โดยตรง และบังคับให้ธุรกิจต้องคิดใหม่เรื่องการลงทุนใน SEO และการยิงแอด

แนวทางปรับตัวสำหรับธุรกิจ

• สร้างแบรนด์โปรไฟล์ที่ชัดเจนและสม่ำเสมอในทุกช่องทางออนไลน์
• ผลิตเนื้อหาคุณภาพ ทั้งรีวิวลูกค้า วิดีโอ และคอนเทนต์โซเชียลที่สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์
• ส่งข้อมูลสำคัญให้ Google เพื่อช่วยให้ระบบ AI เข้าใจและระบุกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเพิ่มทักษะใหม่เพื่อใช้เครื่องมือ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมจาก คอร์สเรียน ChatGPT หรือ คอร์สเรียน Gemini ซึ่งจะช่วยเสริมความเข้าใจและการใช้งานจริงในธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

กรณีศึกษา: ธุรกิจที่ปรับตัวได้สำเร็จ

ร้านท่องเที่ยวขนาดเล็กในเชียงใหม่ที่เคยพึ่งพาโฆษณาคีย์เวิร์ด ได้ปรับกลยุทธ์โดยเน้นสร้างคอนเทนต์รีวิว และวิดีโอประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบเรียลๆ ระบบค้นหาของ Google จึงเลือกแนะนำร้านนี้บ่อยขึ้น ส่งผลให้ยอดจองเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่าคอนเทนต์คุณภาพในหลากหลายแพลตฟอร์ม คือหัวใจในการแข่งขันยุค AI

สรุป

การค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI คือมาตรฐานใหม่ที่กำลังเปลี่ยนโฉมการค้นหาและการตลาดออนไลน์ ธุรกิจที่พร้อมปรับตัวและลงทุนในคอนเทนต์คุณภาพ การพัฒนาเว็บไซต์ และการใช้เครื่องมือโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี จะสามารถรักษาความได้เปรียบและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคใหม่นี้