กลยุทธ์ SEO 2026: วิธีเอาชนะยุค Google AI Overview

การค้นหาบน Google กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อ Google AI Overview เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตลาดไทย ธุรกิจออนไลน์และเว็บไซต์ต่างๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ที่ต้องปรับตัว การที่ผู้ใช้ได้รับคำตอบจาก AI ทันทีโดยไม่ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์ ทำให้ Traffic ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า SEO ตายแล้ว—มันแค่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า Google AI Overview กำลังส่งผลกระทบอย่างไรต่อตลาดไทย และจะมีกลยุทธ์ SEO อะไรบ้างที่คุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับปี 2026

Google AI Overview คืออะไร และทำไมต้องสนใจ?

Google AI Overview (เดิมชื่อ Search Generative Experience หรือ SGE) คือคำตอบแบบสรุปที่ AI สร้างขึ้นมาจากข้อมูลหลายแหล่ง โดยแสดงอยู่ด้านบนสุดของผลการค้นหา ก่อนที่จะถึง Organic Results ทั่วไป

ข้อมูลจากงานวิจัยล่าสุดเผยให้เห็นว่า AI Overviews ปรากฏใน 13.14% ของคำค้นหาทั้งหมดในเดือนมีนาคม 2025 เพิ่มขึ้นจาก 6.49% ในเดือนมกราคม 2025 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคำค้นหาแบบ Informational ที่มี 88.1% ของคำค้นหาที่ทำให้เกิด AI Overview เป็นประเภท Informational

สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือผลกระทบต่อ Click-Through Rate (CTR) ข้อมูลจากการศึกษาพบว่า Organic CTR ลดลงจาก 1.41% เหลือ 0.64% สำหรับคำค้นหาที่มี AI Overviews นั่นคือการลดลงถึง 61%—ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ Traffic และรายได้ของเว็บไซต์

สถานการณ์ของ Google AI ในประเทศไทย

แม้ว่า Google AI Overview ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วโลก แต่ตลาดไทยกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้อยู่แล้ว Google ได้ ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในประเทศไทยเพื่อสร้าง Data Center และขยาย Cloud Infrastructure ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า AI และ Cloud Services จะเป็นอนาคตของดิจิทัลในไทย

นอกจากนี้ Google Cloud ยังได้เปิดตัว โครงการ PanyaThAI เพื่อเร่งการใช้งาน Agentic AI ในองค์กรไทย โดยมีบริษัทชั้นนำในไทยเข้าร่วม 15 แห่ง ครอบคลุมทั้งภาคการเงิน ค้าปลีก การศึกษา และการผลิต

สิ่งนี้หมายความว่าอะไร? หมายความว่าผู้บริโภคไทยจะคุ้นเคยกับการใช้ AI ในการค้นหาข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ และพฤติกรรมการค้นหาจะเปลี่ยนไป—จากการคลิกเข้าเว็บไซต์หลายๆ เว็บ กลายเป็นการอ่านคำตอบจาก AI แล้วจบ

5 กลยุทธ์ SEO หลักสำหรับปี 2026

1. เน้นสร้างเนื้อหาที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จริง (E-E-A-T)

Google และ AI Overviews ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่มี Experience, Expertise, Authoritativeness, และ Trustworthiness (E-E-A-T) มากกว่าที่เคย

หากคุณต้องการให้แบรนด์ของคุณถูกอ้างอิงใน AI Overview คุณต้องสร้างเนื้อหาที่:

• แสดงประสบการณ์จริง: เขียนจากมุมมองของผู้ที่มีประสบการณ์ตรง ไม่ใช่แค่รวบรวมข้อมูลจากที่อื่น
• มีความลึกและครอบคลุม: ตอบคำถามได้อย่างละเอียด ไม่ใช่แค่ผิวเผิน
• อ้างอิงแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้: ใช้ข้อมูลจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ
• มีผู้เขียนที่มีความเชี่ยวชาญ: แสดงประวัติและความสามารถของผู้เขียน

การสร้าง Topical Authority ด้วยการเขียนบทความหลายๆ บทความที่เกี่ยวข้องกันในหัวข้อเดียวกัน พร้อมกับการทำ Internal Linking ที่ดี จะช่วยให้ Google เข้าใจว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ

2. ปรับเนื้อหาให้เหมาะกับ Zero-Click Search

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า 58% ของการค้นหาบน Google ในสหรัฐอเมริกาจบลงโดยไม่มีการคลิกใดๆ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Zero-Click Search—ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่ต้องการจาก AI Overview หรือ Featured Snippet โดยไม่ต้องเข้าเว็บไซต์

แล้วควรทำอย่างไร?

• เขียนเนื้อหาที่ตอบคำถามได้ชัดเจนและรวดเร็ว: ใส่คำตอบไว้ในย่อหน้าแรก
• ใช้ Structured Data (Schema Markup): ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของคุณได้ดีขึ้น และเพิ่มโอกาสปรากฏใน Rich Results
• สร้าง FAQ Sections: ตอบคำถามที่ผู้ใช้มักถาม โดยเขียนในรูปแบบธรรมชาติ
• เพิ่มคุณค่านอกเหนือจากคำตอบพื้นฐาน: ให้ Insights, Case Studies, หรือเครื่องมือที่ผู้ใช้ต้องเข้ามาในเว็บเพื่อใช้งาน

จุดประสงค์คือ แม้ว่าผู้ใช้จะได้คำตอบจาก AI แต่ต้องให้เขารู้สึกว่ามีอะไรที่มีค่ามากกว่านั้นในเว็บของคุณ

3. ลงทุนใน Video และ YouTube SEO

YouTube กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ SEO ที่สำคัญ โดยเว็บไซต์ที่มี Embedded Video มักจะจัดอันดับได้ดีกว่า Google แสดง YouTube Videos ในผลการค้นหามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคำค้นหาแบบ How-to และ Tutorial

กลยุทธ์ที่แนะนำ:

• สร้าง Video Content ควบคู่กับ Blog Content: เขียนบทความพร้อมกับทำวิดีโอในหัวข้อเดียวกัน
• Embed Video ลงใน Blog Post: ช่วยเพิ่ม Engagement และ Dwell Time
• ทำ YouTube SEO: ใช้ Keywords ในชื่อ, Description, และ Tags อย่างเหมาะสม
• ใส่ Timestamps และ Chapters: ช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของวิดีโอได้ดีขึ้น

สำหรับธุรกิจที่มีงบจำกัด สามารถเริ่มจากการสร้างวิดีโอสั้นๆ ง่ายๆ ที่บันทึกด้วยสมาร์ทโฟนก็ได้—สิ่งสำคัญคือคุณภาพของเนื้อหาและความจริงใจ

4. สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมี Social Proof

หนึ่งในปัจจัยที่ AI และ Search Engine ใช้ตัดสินใจคือ Brand Authority—แบรนด์ของคุณถูกพูดถึงอย่างไรในโลกออนไลน์

การสร้าง Brand Authority ไม่ใช่แค่เรื่องของ SEO On-Page อีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ:

• Digital PR: ให้แบรนด์ของคุณถูกกล่าวถึงในสื่อออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือ
• Social Media Presence: มี Engagement ที่ดีบนโซเชียลมีเดีย
• Reviews และ Testimonials: มีรีวิวจากลูกค้าจริงบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Google Reviews, Facebook, หรือ Trustpilot
• Guest Posting และ Collaborations: เขียนบทความให้เว็บไซต์อื่นหรือทำงานร่วมกับ Influencers ในวงการ

การที่ AI จะพิจารณา Social Signals ที่รวบรวมจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เว็บรีวิว และลิงก์อ้างอิงจากเว็บไซต์ที่มี Authority สูง หมายความว่าการสร้างแบรนด์ในทุกช่องทางจะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกอ้างอิงโดย AI

หากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือในการวางกลยุทธ์ Digital Marketing แบบครบวงจร การปรึกษากับบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสบการณ์อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณเข้าใจและปรับตัวได้เร็วขึ้น

5. วัดผลด้วย Metrics ใหม่ที่นอกเหนือจาก Traffic

เมื่อ AI Overview ทำให้ Click-Through Rate ลดลง การวัดผลด้วย Organic Traffic อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ

Metrics ใหม่ที่ควรติดตาม:

• Brand Mentions: แบรนด์ของคุณถูกกล่าวถึงในเนื้อหาออนไลน์บ่อยแค่ไหน
• Citation in AI Overviews: แบรนด์ของคุณถูกอ้างอิงใน AI-generated summaries หรือไม่ (แม้ว่าจะยังไม่มีเครื่องมือวัดอย่างเป็นทางการ แต่สามารถใช้เครื่องมือจาก Third-party เช่น seoClarity หรือ BrightEdge)
• Engagement Metrics: Dwell Time, Pages per Session, Bounce Rate
• Conversion Rate: มากกว่าแค่การได้ Traffic คือการได้ Leads และ Sales
• Share of Voice: เมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม

การปรับเปลี่ยนมุมมองจาก “เราต้องการ Traffic เยอะๆ” ไปเป็น “เราต้องการ Traffic ที่มีคุณภาพและ Convert” จะช่วยให้กลยุทธ์ของคุณเหมาะสมกับยุค AI มากขึ้น

ข้อควรระวัง: สิ่งที่ไม่ควรทำใน SEO 2026

อย่าพึ่งพา AI Content เพียงอย่างเดียว

แม้ว่า AI Writing Tools จะช่วยให้สร้างเนื้อหาได้เร็วขึ้น แต่เนื้อหาที่ AI เขียนทั้งหมดโดยไม่มีมนุษย์เข้ามาตรวจสอบและปรับปรุง มักจะขาดความลึก ประสบการณ์จริง และความเป็นส่วนตัวที่ผู้อ่านต้องการ

Google ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้ห้ามใช้ AI ในการสร้างเนื้อหา แต่ เนื้อหาต้องมีคุณค่าจริง มีความเชี่ยวชาญ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ การใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วย แล้วให้มนุษย์เป็นคนตรวจสอบและเพิ่มมูลค่า คือแนวทางที่ดีที่สุด

อย่าละเลย Traditional SEO

การเน้นกลยุทธ์ SEO แบบดั้งเดิมที่ได้ผลดีอย่าง Content ที่มุ่งเป้าตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ (Geo-targeted) และการเพิ่มประสิทธิภาพหน้าเว็บ ยังคงสร้างผลลัพธ์ที่ดีในปี 2026

อย่าละทิ้งพื้นฐานของ SEO:

• Technical SEO: Page Speed, Mobile-Friendliness, Core Web Vitals
• On-Page SEO: Title Tags, Meta Descriptions, Header Tags, Image Alt Text
• Link Building: Backlinks ที่มีคุณภาพยังคงมีความสำคัญ
• Local SEO: สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือให้บริการในพื้นที่

อย่าเพิกเฉยต่อ Mobile Experience

ผู้ใช้งานในไทยส่วนใหญ่ใช้โทรศัพท์มือถือในการค้นหาข้อมูล การที่เว็บไซต์ไม่ได้ปรับให้เหมาะกับมือถือ จะทำให้สูญเสียโอกาสอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อ การปรากฏของ AI Overviews บนมือถือในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเกือบ 475% เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปี

ท้ายที่สุดแล้ว คุณพร้อมรึยัง?

Google AI Overview ไม่ได้มาเพื่อทำลาย SEO แต่มาเพื่อเปลี่ยนแปลงมัน ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จในปี 2026 คือธุรกิจที่:

• สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและมีความเชี่ยวชาญจริง
• เข้าใจและปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
• สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งในทุกช่องทาง
• ใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีอย่างชsmart
• ยืดหยุ่นและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา

ยุคของการทำ SEO แบบ “เขียนบทความ ใส่ Keyword แล้วรอติดอันดับ” ผ่านพ้นไปแล้ว ปี 2026 ต้องการผู้ที่เข้าใจลึกถึงความต้องการของผู้ใช้ สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าจริง และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลง

การเริ่มต้นวันนี้จะทำให้คุณก้าวนำคู่แข่งไปไกล อย่ารอจนกระทั่ง Traffic ลดลงอย่างมากถึงค่อยปรับตัว เพราะในตลาดดิจิทัลที่แข่งขันสูงของไทย ความเร็วในการปรับตัวคือสิ่งที่จะแยกผู้ชนะออกจากผู้แพ้