สูตรปรับ Google Ads ที่เอเจนซี่ใช้
สูตรปรับ Google Ads รายสัปดาห์ที่เอเจนซี่มืออาชีพใช้จริง
สูตรปรับ Google Ads รายสัปดาห์ที่เอเจนซี่มืออาชีพใช้จริง
การทำ Google Ads ให้ได้ผลดีต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ตั้งค่าแล้วปล่อยให้โฆษณาวิ่งไปเอง ถ้าคุณปล่อยไว้นานโดยไม่เช็กอะไรเลย โอกาสเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ก็มีสูง แต่ถ้ามีคนช่วยดูแล วิเคราะห์ และปรับแคมเปญให้ทุกสัปดาห์ โอกาสจะทำยอดขายได้ดีขึ้นก็จะสูงตามไปด้วย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักสูตรปรับ Google Ads รายสัปดาห์ที่เอเจนซี่มืออาชีพใช้จริง ซึ่งครอบคลุมทั้งการเช็กผล วิเคราะห์ ปรับปรุง และขยายผลให้แคมเปญแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ
1. เช็กภาพรวมของแคมเปญทุกสัปดาห์
สิ่งที่ต้องทำสม่ำเสมอคือการเข้าไปดูผลลัพธ์ภาพรวมในแต่ละแคมเปญ โดยเฉพาะจุดหลัก ๆ อย่าง:
- ค่า CTR (อัตราการคลิก)
- ถ้าตัวเลขต่ำเกินไป มักแปลว่าโฆษณาไม่ดึงดูด หรือยิงไปหาคนไม่ตรงกลุ่ม
- วิธีแก้คือปรับข้อความให้กระชับ ชัดเจน และมีจุดน่าสนใจ เช่น โปรโมชั่น หรือข้อความกระตุ้นให้คลิก
- ลองเปลี่ยนรูปแบบ Keyword จาก Broad Match เป็น Phrase Match เพื่อให้ยิงแม่นยำขึ้น
- ค่า CPC (ราคาต่อคลิก)
- ถ้าคลิกราคาแพงเกินไป แนะนำให้ลองใช้ Long-Tail Keyword เพราะคู่แข่งน้อยลง และมีโอกาสได้คนที่สนใจจริงๆ
- งบประมาณโฆษณา
- ถ้างบหมดเร็วเกินไป อาจต้องเพิ่มงบ โดยเฉพาะถ้าใช้คีย์เวิร์ดที่แข่งขันสูง
- ถ้างบใช้ไม่หมด ต้องเช็กว่าเป็นเพราะ Bid ต่ำ หรือ Quality Score ไม่ดี หรือคีย์เวิร์ดแคบเกินไป ต้องปรับให้เหมาะกับเป้าหมาย
2. วิเคราะห์คู่แข่งจากกลุ่มคีย์เวิร์ดเดียวกัน
การรู้ว่าคู่แข่งกำลังทำอะไรอยู่ เป็นส่วนหนึ่งในสูตรปรับ Google Ads รายสัปดาห์ที่เอเจนซี่มืออาชีพทำสม่ำเสมอ โดยเข้าไปดูใน Auction Insight จะเห็นเลยว่าใครขึ้นอันดับบ่อย ใครเพิ่งเข้ามาใหม่ หรือใครที่อยู่เหนือเรา
- เช็กข้อความโฆษณาของคู่แข่งว่าเขาเขียนยังไง ใช้คำแบบไหน โปรโมชั่นแบบไหนบ้าง
- เข้าไปดูหน้าเว็บไซต์ของคู่แข่งด้วยว่าหน้า Landing Page เขาเป็นยังไง มีอะไรน่าสนใจมากกว่าของเราหรือเปล่า
หากคุณไม่มีเวลาเช็กคู่แข่งหรือปรับแคมเปญด้วยตัวเอง การเลือกทำงานร่วมกับ บริษัททำ Google Ads ที่เข้าใจกลยุทธ์เหล่านี้ จะช่วยให้แคมเปญมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่ต้องลองผิดลองถูกเอง
การปรับข้อความให้ดีกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะเมื่อโฆษณาไปแสดงพร้อมกัน จะช่วยให้คนคลิกที่โฆษณาของคุณมากขึ้น ซึ่งสุดท้ายก็ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มยอดขายได้
3. ใส่ Negative Keyword ทุกสัปดาห์
Negative Keyword คือคำที่คุณไม่อยากให้โฆษณาไปแสดงร่วมด้วย เช่น คำที่ไม่เกี่ยวกับสินค้าหรือคำที่ดึงคนที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อจริงๆ เข้ามา
- เมื่อกรองคำเหล่านี้ออก จะช่วยให้โฆษณาแสดงกับคนที่มีโอกาสซื้อเท่านั้น
- ยังช่วยให้ค่า CTR สูงขึ้น และเมื่อ CTR ดี Quality Score ก็จะดีขึ้นด้วย ทำให้ค่าคลิกลดลง
เอเจนซี่ที่ดูแลโฆษณาให้ลูกค้าจริงจัง จะทำ Negative Keyword ให้ทุกสัปดาห์ เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้โฆษณามีคุณภาพ
4. ดู Search Terms แล้วขยายคำที่ได้ผลดี
อีกขั้นตอนหนึ่งในสูตรปรับ Google Ads รายสัปดาห์ที่หลายคนมองข้าม คือการเข้าไปดู Search Terms ที่คนใช้จริง
- ถ้าเจอคำที่เกี่ยวข้องและมี Conversion ดี ควรเพิ่มคำนั้นเข้าไปในกลุ่ม Keyword แบบ Exact หรือ Phrase Match
- ถ้าบางคำเริ่มมีแนวโน้มดี อาจแยกออกมาเป็น Ad Group ใหม่เลย เพื่อทำโฆษณาให้ตรงกับคำเหล่านั้น
- นำคำที่ใช้จริงมาช่วยเขียนข้อความโฆษณา จะช่วยให้คนรู้สึกว่าโฆษณาตรงกับสิ่งที่เขาหาอยู่
การขยาย Keyword จากคำค้นหาจริง จะช่วยให้แคมเปญไม่หยุดนิ่ง และเพิ่มโอกาสเจอลูกค้าที่ต้องการสินค้าหรือบริการของคุณจริงๆ
คำแนะนำเพิ่มเติม: โฟกัส Conversion ด้วยการปรับ Landing Page และกลยุทธ์การ Bid
อีกสิ่งหนึ่งที่ทีมเอเจนซี่มืออาชีพจะไม่มองข้ามคือการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า ต้องการ Conversion แบบไหน เช่น การสั่งซื้อ การกรอกฟอร์ม หรือลงทะเบียน แล้วปรับทั้งหน้าเว็บและกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน:
- ตรวจสอบว่า Landing Page มีปุ่ม Call-to-Action ที่เด่นและตรงจุดหรือไม่ เช่น ปุ่ม “ซื้อเลย” หรือ “ติดต่อเรา” อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นง่าย
- ใช้ถ้อยคำที่กระตุ้นการตัดสินใจ หลีกเลี่ยงคำกลาง ๆ หรือคลุมเครือ
- เปลี่ยนกลยุทธ์ Bid จาก Maximize Clicks มาเป็น Maximize Conversions เพื่อให้ระบบโฟกัสกับคนที่มีแนวโน้มจะซื้อจริง
- ถ้าได้ Conversion ถึงระดับที่เพียงพอ เช่น 50 ครั้งต่อเดือน ค่อยเปลี่ยนมาใช้ Target CPA เพื่อควบคุมต้นทุนได้แม่นยำขึ้น
เทคนิคนี้ช่วยให้ได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ และเพิ่มผลตอบแทนจากงบโฆษณาในระยะยาว
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!



