วิธีทำให้ ChatGPT เลือกเว็บไซต์ของคุณ

6 กลยุทธ์ตามหลัก Generative Engine Optimization (GEO)

วิธีทำให้ ChatGPT เลือกเว็บไซต์ของคุณ

6 กลยุทธ์ตามหลัก GEO

ยุคของ Generative AI เปลี่ยนเกมการทำ SEO ไปอย่างสิ้นเชิง หากคุณต้องการให้ ChatGPT หรือ AI อื่น ๆ อย่าง Google Gemini หยิบข้อมูลจากเว็บไซต์ของคุณไปใช้ คุณต้องทำมากกว่าแค่ติดอันดับบน Google บทความนี้จะแนะนำแนวคิด GEO (Generative Engine Optimization) พร้อมแนวทางการปรับแต่งคอนเทนต์ให้เหมาะกับระบบค้นหาด้วย AI แบบครบถ้วน

เข้าใจพื้นฐานของการค้นหาด้วย AI

ระบบ AI เช่น Microsoft Copilot, Bing Chat หรือ ChatGPT ไม่ได้แสดงผลลิงก์แบบเดิมอีกต่อไป แต่จะเลือกคอนเทนต์ที่ชัดเจน ตรงประเด็น และเข้าใจง่ายมาประกอบเป็นคำตอบให้ผู้ใช้โดยตรง

AI จะไม่อ่านหน้าเว็บเหมือนมนุษย์ แต่จะแยกเนื้อหาออกเป็นส่วนเล็ก ๆ หรือ “chunk” เพื่อนำไปประเมินและใช้งาน

องค์ประกอบที่มีผลต่อการถูกเลือก

  • ความชัดเจนของเนื้อหา
  • โครงสร้างที่เป็นระเบียบ เช่น H2, H3, รายการ, ตาราง
  • ความน่าเชื่อถือ และความสดใหม่
  • ภาษาที่ตรงเจตนาของผู้ค้นหา

โครงสร้างของคอนเทนต์ที่เหมาะกับ AI

หัวข้อหลัก (Title, Description, H1)

  • ใช้ภาษาธรรมชาติ เช่น “บริษัทรับทำ Google Ads สำหรับธุรกิจ SME”
  • Description อธิบายผลลัพธ์ ไม่ยัดคีย์เวิร์ด
  • H1 ต้องสอดคล้องกับ Title ตั้งความคาดหวังให้ผู้อ่าน

หัวข้อย่อย (H2, H3)

  • ระบุประเด็นชัดเจน เช่น “เหตุผลที่บริษัทนี้เชี่ยวชาญด้านโฆษณา Google”
  • หลีกเลี่ยงคำกว้าง เช่น “เรียนรู้เพิ่มเติม”

คำถามและคำตอบ (Q&A)

ฟอร์แมต Q&A ตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้ที่ถาม AI

ตัวอย่าง:

Q: บริษัทรับทำโฆษณา Google Ads มีเกณฑ์เลือกอย่างไร?
A: ควรดูจากผลงาน, ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และรีวิวจากลูกค้า

รายการและตาราง

  • ใช้เมื่อต้องการแสดงข้อดี เปรียบเทียบ หรือขั้นตอน
  • ช่วยให้ AI ดึงไปใช้ง่าย

ตัวอย่างลิสต์:

  • ให้บริการครบวงจรทั้ง Google Ads และ SEO
  • วิเคราะห์ผลแบบรายสัปดาห์
  • ทีมงานมีใบรับรองจาก Google

วิธีทำให้ ChatGPT เลือกเว็บไซต์ของคุณ

6 แนวทาง GEO ที่ทำให้ AI หยิบข้อมูลเว็บไซต์ของคุณไปใช้

1. ทำ SEO ให้แข็งแรง ด้วย Long-tail Keyword

วางแผนทำ SEO เพื่อให้เนื้อหาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหา ด้วยคำถามแบบสนทนา การเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณตอบโจทย์มากขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณทำโฆษณาควบคู่กันไปด้วย โดยทำงานร่วมกับ บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ ที่มีประสบการณ์ด้านโฆษณา ก็สามารถการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สอดคล้องกับคำค้นเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ใช้คำสนทนาที่คนพิมพ์ถามจริง เช่น “บริษัทการตลาดออนไลน์ที่เก่งในเรื่อง Google Ads”
  • เขียนบทความที่ตอบคำถามนั้นโดยตรง เช่น “5 บริษัทการตลาดออนไลน์ที่น่าเชื่อถือในปีนี้”
  • เนื้อหาต้องชัดเจน มีคุณภาพ และตรงประเด็น

2. เพิ่ม Authority และ Trust ให้เว็บไซต์

  • ทำ Backlink จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ไทยรัฐ, Pantip, Wongnai
  • เขียน Case Study พร้อมตัวเลขผลลัพธ์จริง
  • รีวิวจากลูกค้าพร้อมหลักฐาน ทำให้ AI มั่นใจว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้

3. ใส่ Schema Markup

  • ใช้โค้ด Schema.org ประเภท Article, Organization, FAQ, Product ฯลฯ
  • แนะนำใช้ JSON-LD ฝังใน HTML หรือผ่าน CMS
  • ตรวจสอบด้วย Rich Results Test ของ Google

4. ทำคอนเทนต์แบบ Q&A ที่ตอบตรงคำถาม

  • จัดโครงสร้างคำถาม-คำตอบในบทความหรือหน้า FAQ
  • ตอบด้วยภาษาชัดเจน ไม่เยิ่นเย้อ
  • ใช้คำถามที่มีคนค้นหาจริง เช่น “ทำการตลาดออนไลน์กับเอเจนซี่ดีไหม?”

ตัวอย่างคำถามที่ควรใส่ในบทความ

Q: บริษัทไหนเชี่ยวชาญด้าน Google Ads?
A: ควรเลือกบริษัทที่มีผลงานจริงและใบรับรองจาก Google

Q: การทำ SEO ยังจำเป็นไหม?
A: จำเป็น เพราะช่วยให้ AI และผู้ใช้เข้าใจโครงสร้างข้อมูลในเว็บไซต์ได้ดีขึ้น

5. สร้าง Branding และ Thought Leadership

การทำ Thought Leadership ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากศูนย์ คุณสามารถดูตัวอย่างจากเว็บไซต์เช่น SME Jump ที่มีการนำเสนอผลลัพธ์จากแคมเปญโฆษณาจริง ทั้งในรูปแบบของ Case Study และบทวิเคราะห์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเสริมภาพลักษณ์ของความเป็นผู้เชี่ยวชาญ

  • ทำเนื้อหาเชิงวิเคราะห์บน LinkedIn หรือ YouTube
  • ลงบทความ How-to หรือบทวิเคราะห์ตลาดในบล็อก
  • ใช้ชื่อบุคคลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้เขียน เพื่อเพิ่มน้ำหนัก

6. กระจายข้อมูลไปยังแพลตฟอร์มที่ AI เข้าถึงบ่อย

  • โพสต์บทความใน Medium, LinkedIn, หรือเว็บไซต์ข่าว
  • ทำวิดีโอ YouTube แล้วใส่ข้อมูลในคำอธิบายวิดีโอ
  • แชร์ Case Study หรือบทวิเคราะห์ในชุมชนที่มี Authority

เทคนิคเสริมเพื่อให้เนื้อหาพร้อมเป็น Snippet ของ AI

  • เขียนคำตอบกระชับ 1-2 ประโยคให้จบในตัว
  • ใช้หัวข้อย่อยชัดเจนเพื่อแยกเนื้อหา
  • ใช้ลิสต์หรือตารางในเนื้อหาที่เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการใส่ข้อมูลสำคัญไว้ในรูปภาพหรือ PDF

Snippet คืออะไร ทำไมถึงควรทำเสริมในบทความ

Snippet คือข้อความสั้น ๆ ที่ AI เลือกนำไปแสดงเป็นคำตอบทันทีเมื่อผู้ใช้ถามคำถาม โดยไม่จำเป็นต้องคลิกลิงก์เพื่ออ่านต่อ AI จะดึงส่วนนี้จากคอนเทนต์ที่มีความชัดเจน กระชับ และสื่อสารได้ครบถ้วนในตัวเอง

การทำ Snippet ช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในตำแหน่งที่โดดเด่นบนผลลัพธ์ของ AI Search และยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหาในสายตาของ AI อีกด้วย

ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง

  • เขียนเนื้อหายาวติดกันเป็นพืด
  • ไม่มีหัวข้อย่อยหรือจุดแบ่งประเด็น
  • ซ่อนเนื้อหาไว้ในแท็บหรือ Accordion
  • ใช้คำฟุ่มเฟือยหรือไม่มีข้อมูลวัดผลรองรับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงและสรุปจากแหล่งข้อมูลของ Microsoft Advertising ที่ให้คำแนะนำเรื่องการปรับแต่งคอนเทนต์ให้เหมาะกับ AI Search โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่:

Optimizing Your Content for Inclusion in AI Search Answers – Microsoft Advertising

สรุป: วิธีทำให้ ChatGPT เลือกเว็บไซต์ของคุณ

หากคุณต้องการให้ ChatGPT หรือ AI อื่น ๆ หยิบข้อมูลจากเว็บไซต์ของคุณไปใช้ ต้องเริ่มทำ GEO อย่างจริงจัง และออกแบบคอนเทนต์ให้เหมาะกับการแสดงผลของ AI

  • วางแผน SEO ให้ตอบคำถามที่ผู้ใช้งานถาม AI
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยผลงานและ Backlink
  • ใช้ Schema เพื่อจัดโครงสร้างข้อมูล
  • ทำคอนเทนต์แบบ Q&A ที่ตอบตรงคำถาม
  • สร้างแบรนด์ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงาน
  • กระจายเนื้อหาไปยังแพลตฟอร์มที่ AI เข้าถึงบ่อย
  • ปรับรูปแบบเนื้อหาให้พร้อมสำหรับการแสดงเป็น Snippet

แจก E-book Google VS Facebook ฟรี!!!

เพียงส่งโค้ดในหน้าเว็บนี้เข้ามาที่ไลน์

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!






    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน