กลยุทธ์การตลาด Dr.PONG
กรณีศึกษาความสำเร็จของแบรนด์สุขภาพและความงามสัญชาติไทย
กลยุทธ์การตลาด Dr.PONG
กรณีศึกษาความสำเร็จของแบรนด์สุขภาพและความงามสัญชาติไทย
แบรนด์ Dr.PONG+ คือใคร?
Dr.PONG+ (อ่านว่า “ดอกเตอร์พงศ์”) คือแบรนด์เวชสำอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทย ที่ก่อตั้งโดย นพ.ยุวพงศ์ สุทธินันท์ แพทย์ผู้นำชื่อตัวเองมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ จุดเริ่มต้นมาจากการจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น เสื้อดามหลัง ผ้ารัดเข่า และเข็มขัดพยุงหลัง ภายใต้ชื่อแบรนด์ Siam Comfort ก่อนจะรีแบรนด์ใหม่เป็น Dr.PONG ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อเจาะตลาดใหม่ในกลุ่มเวชสำอาง
จุดแข็งของแบรนด์: นวัตกรรมและคุณภาพที่เข้าถึงได้
Dr.PONG+ เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยการชูจุดแข็งด้าน “คุณภาพระดับแพทย์” ควบคู่กับการตั้งราคาที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ (ส่วนใหญ่ไม่เกิน 500 บาท) ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพและความงามของคนไทยโดยเฉพาะ เช่น หน้ากากผ้า NanoZinc Fiber Mask ที่ลดการเกิดสิวจากการใส่หน้ากาก (maskne) ไปจนถึงวิตามินเสริมสุขภาพต่างๆ
สินค้า Dr.PONG+ หลายตัวผ่านการทดสอบทางคลินิกและวิจัยจริงกับผิวคนไทย ซึ่งเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้ผู้บริโภคในแง่ผลลัพธ์การใช้งานจริง
กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของ Dr.PONG+
ใช้พลังโซเชียลมีเดียสร้างกระแส
แบรนด์ประสบความสำเร็จในการใช้โซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาด ทั้ง Facebook, Instagram, TikTok และ Twitter (X) โดยมีการสื่อสารที่สม่ำเสมอและสอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์ ตัวอย่างเช่น การใช้คอนเทนต์ที่มีอารมณ์ขัน ร่วมมือกับ Salmon House รวมถึงโพสต์เบื้องหลังพรีเซนเตอร์ที่ช่วยสร้างความใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมาย
การทำ KOL/Influencer Marketing
Dr.PONG+ เน้นการทำ Affiliate Marketing และส่งเสริมให้ผู้ใช้จริงรีวิวสินค้าแบบ KOC (Key Opinion Consumer) โดยเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถรับค่าคอมมิชชั่นผ่านลิงก์แนะนำสินค้า ทำให้แบรนด์ได้รับการบอกต่อในวงกว้าง และสร้างกระแส “ใช้ดีบอกต่อ” อย่างแท้จริง
บุกตลาดอีคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบ
แบรนด์วางจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce ทุกช่องทางที่นิยมในไทย เช่น Shopee, Lazada, TikTok Shop และมีเว็บไซต์ทางการ drpongofficial.com สำหรับการจำหน่ายในต่างประเทศ รวมถึงจัดโปรโมชันแฟลชเซลล์ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น “ช้อปฉ่ำ ลุ้นฟินกับ KIM SEON HO”
กลยุทธ์การตลาดออฟไลน์ของ Dr.PONG+
ช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม
แม้จะโดดเด่นในออนไลน์ แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับออฟไลน์อย่างมาก โดยมีหน้าร้าน (Flagship Store) และวางจำหน่ายในร้านมัลติแบรนด์ เช่น EVEANDBOY, BEAUTRIUM และร้านสุขภาพอย่าง Watsons ทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อได้ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด
การใช้ Brand Ambassador อย่างมีชั้นเชิง
ช่วงแรกแบรนด์เลือกใช้ Influencer ชาวไทยเป็นพรีเซนเตอร์ ต่อมาในปี 2567 ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการดึงนักแสดงเกาหลีใต้ Kim Seon Ho มาเป็นพรีเซนเตอร์หลักคนแรก สร้างความฮือฮาและเปิดประตูสู่ตลาดต่างประเทศ กลยุทธ์นี้ทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในทุกช่องทาง
สื่อสารผ่าน PR และสื่อความงาม
แบรนด์ยังปรากฏในบทสัมภาษณ์บน Positioning, Marketeer และสื่อธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงคว้ารางวัลคุณภาพที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งจริง ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว
ภาพลักษณ์และการวางตำแหน่งแบรนด์
จุดยืนที่ชัดเจน: เวชสำอางโดยแพทย์เพื่อคนไทย
Dr.PONG+ สร้างภาพลักษณ์ของความน่าเชื่อถือด้วยฐานความรู้ทางการแพทย์ การใช้แนวคิด “Evidence-Based Skincare” ตอกย้ำว่าแต่ละสูตรผ่านการวิจัยจริง ไม่ใช่เพียงการอ้างผลจากต่างประเทศเหมือนหลายแบรนด์
เป็นมิตร เข้าถึงง่าย ทันสมัย
แบรนด์ตั้งราคาสินค้าในระดับที่เอื้อมถึง (ส่วนใหญ่ไม่เกิน 500 บาท) และสื่อสารด้วยภาษาและภาพลักษณ์ที่สนุก สดใส โดยใช้มีมและคอนเทนต์ที่เข้าถึงง่าย ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่รู้สึกว่าแบรนด์มีชีวิตชีวา ไม่ใช่แบรนด์หมอที่ดูวิชาการและเคร่งเครียด
One-Stop Solution ด้านสุขภาพและความงาม
ด้วยการออกสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ปัญหาทุกเพศทุกวัย Dr.PONG+ จึงกลายเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้สึกว่าครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งด้านผิวพรรณ กลิ่นกาย ไปจนถึงอาหารเสริม
แนวคิดของผู้ก่อตั้ง: นพ.ยุวพงศ์ สุทธินันท์
ใส่ใจผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง
คุณหมอยุวพงศ์ให้ความสำคัญกับปัญหาของคนไทยโดยเฉพาะ เช่น สิว ฝ้า กลิ่นตัว หรือผิวแพ้ง่าย เขาพัฒนาสูตรที่ตอบโจทย์ pain point ที่ยังไม่มีแบรนด์อื่นแก้ได้ตรงจุด ซึ่งสะท้อนออกมาจากผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและใช้งานได้จริง
มุ่งมั่นในคุณภาพและความปลอดภัย
ด้วยพื้นฐานแพทย์ หมอยุวพงศ์ไม่ประนีประนอมเรื่องส่วนผสมและการทดสอบ ผลิตภัณฑ์ต้องปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยผ่านการวิจัยและการทดสอบกับผิวคนไทยก่อนจำหน่ายจริง
กล้าลงทุนด้านการตลาด
คุณหมอให้ความสำคัญกับการตลาดแบบ “ถึงและตรงจุด” ทั้งการสร้างรีวิว การจัดกิจกรรม และการใช้คนดังอย่างจริงจัง โดยมองว่าการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงต้องอาศัยทั้งเวลาและทรัพยากร ซึ่งจะให้ผลตอบแทนระยะยาว
วิสัยทัศน์ระดับสากล
เป้าหมายของ Dr.PONG+ ไม่ใช่แค่ตลาดไทย แต่รวมถึงตลาดต่างประเทศ โดยเน้นการทำสินค้าที่มีมาตรฐานสากล บรรจุภัณฑ์สวยงาม และการจับมือกับพาร์ทเนอร์ต่างประเทศเพื่อขยายฐานลูกค้าในระดับโลก
สรุป: กลยุทธ์การตลาด Dr.PONG
Dr.PONG+ เป็นตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจของแบรนด์ไทยที่ใช้กลยุทธ์การตลาดอย่างรอบด้าน ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ใช้ฐานวิชาการทางการแพทย์เป็นแกนหลักในการพัฒนาสินค้า และกล้าลงทุนเพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง ผลลัพธ์คือการเติบโตอย่างรวดเร็วจากยอดขายหลักร้อยล้านสู่พันล้านภายในไม่กี่ปี แบรนด์นี้ไม่เพียงแค่ประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการไทยรายอื่น ๆ ที่ฝันอยากสร้างแบรนด์ของตนเองให้ยิ่งใหญ่ในระดับโลก
ให้ SME JUMP ช่วยคุณ!
การสร้างแบรนด์และการตลาดให้ประสบความสำเร็จแบบ Dr.PONG+ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจน การทำคอนเทนต์อย่างมืออาชีพ และการเลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะสม หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือแบรนด์ไทยที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน SME JUMP คือพาร์ทเนอร์ที่พร้อมช่วยผลักดันธุรกิจของคุณให้ไปสู่เป้าหมาย
เราเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ครบวงจร ทั้งการทำโฆษณา Facebook/Google, Content Marketing, Influencer/KOL Strategy, SEO, Website & E-Commerce Optimization รวมถึงการสร้างแบรนด์จากศูนย์สู่ระดับประเทศ
ปรึกษาทีม SME JUMP ได้ฟรีวันนี้ แล้วมาวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่ทรงพลัง เพื่อให้ธุรกิจของคุณก้าวกระโดดอย่างมีทิศทาง
เยี่ยมชมเว็บไซต์เราได้ที่ 👉 www.smejump.com
ส่งข้อมูลถึงเรา
ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!
คุยกับเราทางไลน์
ข้อมูลบริษัท
บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด
79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0105556135494
Email: [email protected]
Tel: 02-100-6872, 02-100-6873
LINE : @smejump
จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.
เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ