Meta Verified คืออะไร

ยกระดับความน่าเชื่อถือและสร้างความไว้วางใจให้กับเพจธุรกิจ

Meta Verified คืออะไร (for Business)

Meta Verified for Business เป็นบริการที่นำเสนอโดย Meta เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือและสร้างความไว้วางใจให้กับเพจธุรกิจในแพลตฟอร์มของ Meta เช่น Facebook และ Instagram โดยเพจที่สมัคร Meta Verified จะได้รับเครื่องหมาย Verified (เครื่องหมายติ๊กสีน้ำเงิน) ซึ่งบ่งบอกถึงการยืนยันตัวตนของธุรกิจจาก Meta นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจออนไลน์

SMEJUMP รับทำโฆษณา Facebook Ads เราขอนำเสนอบทความอธิบายรายละเอียดของ Meda Verfied for Business พร้อมข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อช่วยในการตัดสินใจสำหรับผู้ที่สนใจสมัครโปรแกรมของ Meta อันนี้

ข้อดีของการมี Meta Verified

1. ความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น

การมีเครื่องหมาย Verified เป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยยืนยันว่าเพจของคุณเป็นตัวจริงจากธุรกิจที่ได้ทำการยืนยันตัวตนแล้ว ผู้ติดตามและลูกค้าจะมั่นใจในความน่าเชื่อถือของเพจมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเพจที่ไม่มีเครื่องหมายนี้

2. การสนับสนุนพิเศษจาก Meta

เพจที่สมัคร Meta Verified จะได้รับการเข้าถึงการสนับสนุนโดยตรงจากทีมงานของ Meta ซึ่งสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับบัญชี การโฆษณา และปัญหาด้านอื่น ๆ ได้รวดเร็วกว่าเพจที่ไม่ได้สมัคร

3. การป้องกันจากการแอบอ้าง

Meta Verified มีฟีเจอร์ที่ช่วยลดโอกาสการถูกแอบอ้างหรือปลอมแปลงบัญชี โดย Meta จะทำการตรวจสอบข้อมูลและเอกสารของธุรกิจก่อนมอบเครื่องหมาย Verified

4. การเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษ

ผู้ใช้ที่สมัคร Meta Verified อาจได้รับการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ และตัวช่วยการตลาดที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ เช่น ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมหรือเครื่องมือในการสร้างเนื้อหาที่ดีกว่า

5. เพิ่มการมองเห็นในแพลตฟอร์ม

Meta อาจเพิ่มโอกาสในการแสดงผลของเพจในผลการค้นหาและการแนะนำผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

การเปรียบเทียบกับเพจที่ไม่มี Meta Verified

คุณสมบัติ มี Meta Verified ไม่มี Meta Verified
เครื่องหมาย Verified มี ไม่มี
การสนับสนุนจาก Meta มีการเข้าถึงโดยตรง จำกัด
การป้องกันจากการแอบอ้าง มีระบบยืนยันตัวตน ไม่มี
โอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย มีโอกาสเพิ่มมากขึ้น ปกติ
ฟีเจอร์พิเศษ มีโอกาสเข้าถึงก่อน ไม่มี

Meta Verified for Business เหมาะกับใคร

  1. ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMEs): ที่ต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความไว้วางใจในแบรนด์
  2. แบรนด์ที่เริ่มต้นใหม่: ที่ยังไม่มีฐานลูกค้ามากนักและต้องการความมั่นใจจากกลุ่มเป้าหมาย
  3. ธุรกิจที่ต้องการขยายฐานลูกค้า: โดยอาศัยการสนับสนุนและฟีเจอร์พิเศษจาก Meta
  4. ธุรกิจที่เคยประสบปัญหาการแอบอ้าง: และต้องการระบบป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

เปรียบเทียบแผนค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายสำหรับ Meta Verified จะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและบริการที่ครอบคลุม โดยอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $11.99 – $14.99 ต่อเดือน เมื่อสมัครผ่านเว็บ และ $14.99 – $17.99 ต่อเดือน หากสมัครผ่านแอปมือถือ ทั้งนี้ ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและแพลตฟอร์มที่สมัคร

แผนการสมัคร ค่าใช้จ่าย (โดยประมาณ)
สมัครผ่านเว็บไซต์ $11.99 – $14.99
สมัครผ่านแอปมือถือ $14.99 – $17.99

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. Meta Verified for Business แตกต่างจากการ Verified ส่วนบุคคลอย่างไร?

Meta Verified for Business เน้นไปที่การยืนยันตัวตนของธุรกิจ ในขณะที่การ Verified ส่วนบุคคลเน้นการยืนยันตัวตนบุคคลทั่วไป เช่น ดารา หรืออินฟลูเอนเซอร์

2. จำเป็นต้องมี Meta Verified สำหรับทุกเพจธุรกิจหรือไม่?

ไม่จำเป็น แต่การมี Meta Verified จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและลดความเสี่ยงจากการถูกแอบอ้าง

3. จะสมัคร Meta Verified ได้อย่างไร?

สามารถสมัครผ่านการตั้งค่าบัญชีใน Facebook หรือ Instagram โดยต้องเตรียมเอกสารยืนยันตัวตนของธุรกิจ เช่น ใบทะเบียนพาณิชย์

4. Meta Verified ครอบคลุมทุกประเทศหรือไม่?

ปัจจุบัน Meta Verified เปิดให้บริการในบางประเทศเท่านั้น ควรตรวจสอบรายละเอียดในศูนย์ช่วยเหลือของ Meta

5. ถ้าไม่ได้ต่ออายุ Meta Verified จะเกิดอะไรขึ้น?

เมื่อไม่ได้ต่ออายุ บัญชีจะสูญเสียเครื่องหมาย Verified และสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น การสนับสนุนโดยตรงจาก Meta

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถศึกษาได้จาก Meta Business Verification

สรุป: Meta Verified คืออะไร

Meta Verified for Business เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่มีงบประมาณเพียงพอในการสมัคร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือให้กับเพจ อีกทั้งยังมีช่องทางช่วยเหลือโดยตรงจาก Meta ในกรณีที่เพจประสบปัญหา อย่างไรก็ตาม หากค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ธุรกิจควรเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งาน Facebook โดยเฉพาะการป้องกันการถูกแฮก ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยและอาจทำให้เพจเสียหายอย่างไม่สามารถกู้คืนได้

แนะนำให้เปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2FA) เพื่อเสริมความปลอดภัย โดยสามารถตั้งค่าได้ในเมนูการตั้งค่าความปลอดภัยของบัญชี วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้ง่าย ๆ แม้จะทราบรหัสผ่านก็ตาม

คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับการเพิ่มความปลอดภัยของเพจ โดยไม่ต้องการสมัคร Meta Verified for Business 

5 คำแนะนำที่จะทำให้เพจ Facebook ปลอดภัยจาก Hacker

  1. เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA): เพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับบัญชีของคุณ โดยการตั้งค่าการยืนยันตัวตนเมื่อเข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์ใหม่
  2. ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง: รหัสผ่านควรมีความยาวและซับซ้อน ประกอบด้วยตัวอักษรพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ ตัวเลข และสัญลักษณ์พิเศษ
  3. ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงบัญชี: ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ดูแลเพจของคุณ และลบสิทธิ์ของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง
  4. ระมัดระวังกับลิงก์หรือไฟล์แนบที่น่าสงสัย: หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่ไม่รู้จักหรือดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
  5. ติดตามข่าวสารและอัปเดตระบบ: ตรวจสอบข่าวสารเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Facebook และอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อป้องกันการโจมตีในรูปแบบใหม่

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!

    ชื่อ-สกุล
    มือถือ
    E-Mail
    ข้อความ


    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน

    ข้อมูลบริษัท

    บริษัท เอส เอ็ม อี จัมพ์ จำกัด 

    79/355 ถ.รามคำแหง 150 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพ 10240

    เลขประจำตัวผู้เสียภาษี  0105556135494

    Email: contact@smejump.com

    Tel: 02-100-6872, 02-100-6873

    LINE : @smejump

    จันทร์ – ศุกร์ : 8:30-17:30 น.

    เสาร์-อาทิตย์: ปิดทำการ