ตัวอย่างโปรโมชั่นที่แบรนด์ใหญ่ใช้

7 ตัวอย่างโปรโมชั่นแบบต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่แบรนด์ใหญ่ๆ ในประเทศไทยใช้ในการกระตุ้นยอดขาย

Marketing Psychology

7 ตัวอย่างโปรโมชั่นที่แบรนด์ใหญ่ใช้ ในการกระตุ้นยอดขาย

กลยุทธ์การตลาดช่วงเทศกาล: เปลี่ยนจากสงครามราคา สู่สงครามคุณค่าและประสบการณ์

แบรนด์ใหญ่ในประเทศไทยได้ปรับกลยุทธ์การตลาดช่วงเทศกาลสิ้นปีและต้นปี จากการลดราคาหนัก มาเน้นการมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่จูงใจผู้บริโภคมากขึ้น ผ่านการผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนทางการตลาด เราได้รวบรวมตัวอย่างโปรโมชั่นที่ถูกนำไปใช้จริงโดยแบรนด์ชั้นนำ เพื่อให้คุณใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาลของไทย

1. โปรโมชั่นออฟไลน์: สร้างมูลค่าในจุดขาย

ลดราคาและจับมือพันธมิตรการเงิน

  • แบรนด์ค้าปลีกใช้กลยุทธ์ลดราคาเฉพาะช่วงเทศกาล เช่น Mega Sale
  • ร่วมมือกับบัตรเครดิต เช่น เซ็นทรัล เดอะวัน หรือ AEON มอบสิทธิผ่อน 0% พร้อมคะแนนสะสมเพิ่ม
  • เพิ่มอำนาจซื้อโดยไม่กระทบกำไรโดยตรง

ของสมนาคุณและอั่งเปา

  • ช่วงตรุษจีน ห้างหลายแห่งแจกอั่งเปาหรือคูปองเงินสดเมื่อซื้อครบตามกำหนด
  • กระตุ้นยอดใช้จ่าย และกระจายการซื้อให้เกิดขึ้นตลอดช่วงเทศกาล

การจัดกิจกรรมหน้าร้าน

  • ห้างจัดอีเวนต์ สร้างบรรยากาศการเฉลิมฉลอง เช่น งาน Expo หรือกิจกรรมครอบครัว
  • ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางอารมณ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค

บรรจุภัณฑ์พิเศษ

  • ใช้ดีไซน์ใหม่ตามธีมเทศกาล เช่น โค้กบรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียมรูปทรงย้อนยุค
  • เพิ่มมูลค่ารับรู้สินค้าและจูงใจให้ซื้อซ้ำ

2. โปรโมชั่นออนไลน์: กระตุ้นเร่งด่วนด้วยช่องทางดิจิทัล

การดำเนินกลยุทธ์ออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องใช้ความเข้าใจในเครื่องมือโฆษณาแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น หากคุณต้องการลงโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายบน Facebook การเลือกทำงานกับ บริษัททำ Facebook Ads ที่มีประสบการณ์จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่า

Flash Sale และ Countdown

  • แบรนด์ใช้กลยุทธ์นับถอยหลัง และข้อเสนอจำกัดเวลาใน Social Media หรือเว็บไซต์
  • สร้างแรงกดดันและความรู้สึกว่า “พลาดไม่ได้”

Email Marketing

  • สื่อสารแบบตรงจุดในช่วง Big Sale เน้นกระตุ้น FOMO (Fear of Missing Out) ซึ่งคือความกลัวที่จะพลาดสิ่งดีๆ หรือข้อเสนอพิเศษที่มีเวลาจำกัด ทำให้ผู้บริโภครีบตัดสินใจซื้อทันที
  • ส่งข้อความถึงลูกค้าเก่าด้วยข้อเสนอเฉพาะบุคคล

Content Marketing และ Storytelling

  • ใช้วิดีโอสั้นหรือเนื้อหาแนวอารมณ์ เพื่อสร้างคุณค่าก่อนนำเสนอโปรโมชั่น
  • เช่น Phillips ที่สื่อสารเรื่องความกล้าในตัวผู้ชาย ผ่าน Emotional Video

3. การใช้ช่องทาง Marketplace และเว็บไซต์แบรนด์

การจัดการเว็บไซต์แบรนด์โดยตรงช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและควบคุมทุกจุดสัมผัสกับลูกค้า ซึ่งหากคุณกำลังเริ่มต้น หรือยังไม่มีทีมเฉพาะทาง การทำงานร่วมกับ บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ ที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ Customer Journey และ Conversion Funnel จะช่วยเร่งผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เว็บไซต์แบรนด์

  • สร้างความผูกพันและภาพลักษณ์แบรนด์ได้ชัดเจน
  • ควบคุมประสบการณ์การซื้อ และสร้างความสะดวกในการจ่ายเงิน ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถจัดการทุกจุดสัมผัสกับลูกค้าได้อย่างสอดคล้อง ตั้งแต่การนำเสนอสินค้าไปจนถึงขั้นตอนชำระเงิน ทำให้สามารถลดอัตราการละทิ้งตะกร้า เพิ่มความพึงพอใจ และสร้างความรู้สึกเชื่อมั่นในแบรนด์

แพลตฟอร์ม Marketplace

  • เหมาะกับการระบายสินค้า และเข้าถึงกลุ่มราคาจับต้องได้
  • ควรใช้ควบคู่ ไม่ใช่แทนกัน เพราะแต่ละช่องทางมีจุดแข็งต่างกัน เว็บไซต์แบรนด์ช่วยควบคุมประสบการณ์ของลูกค้าได้ครบวงจร ทั้งการนำเสนอภาพลักษณ์ การแสดงคุณค่าของแบรนด์ และการเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ ขณะที่ Marketplace เหมาะสำหรับการเพิ่มยอดขายและเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง จึงควรผสานการใช้งานทั้งสองช่องทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

4. กลยุทธ์ Gifting และ Premiumization

ชุดของขวัญแบบ Limited Edition

  • รวมสินค้าขายดีในบรรจุภัณฑ์เฉพาะเทศกาล
  • เหมาะสำหรับเป็นของฝาก และเพิ่มยอดขายจากลูกค้ากลุ่มครอบครัว

ของพรีเมี่ยมพร้อมแบรนด์

  • แจกของที่ใช้จริง เช่น ชุดกล่องช้อนส้อม หรือแก้วเก็บอุณหภูมิ พร้อมโลโก้แบรนด์
  • สร้าง Top of Mind และการจดจำระยะยาว

แคมเปญสินค้าเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่

  • เจาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อของฝากให้ผู้ใหญ่ เช่น ชุดดูแลสุขภาพ หรือสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ โปรโมชั่นกลุ่มนี้มีประสิทธิภาพเพราะตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการแสดงความเคารพและใส่ใจต่อผู้ใหญ่ในครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่คนไทยนิยมมอบของขวัญให้ผู้หลักผู้ใหญ่ การนำเสนอสินค้าที่เหมาะสมและดูมีคุณค่า ช่วยให้แบรนด์สามารถเพิ่มยอดขายพร้อมสร้างความประทับใจต่อกลุ่มเป้าหมายได้ในเวลาเดียวกัน

5. การตลาดแบบ O2O: เชื่อมออนไลน์สู่หน้าร้าน

Digital Coupon และ QR Code

  • ใช้ LINE Coupon หรือ QR Code สำหรับรับสิทธิ์ในร้านจริง
  • ทำให้สามารถวัดผลจากออนไลน์สู่ยอดขายจริงได้ชัดเจน

การใช้ QR บนสื่อนอกบ้าน (OOH)

OOH (Out-of-Home Advertising) คือสื่อโฆษณาที่อยู่ในพื้นที่สาธารณะ เช่น ป้ายบิลบอร์ด รถไฟฟ้า หรือจอแอลอีดีตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นหรือมีคนสัญจรจำนวนมาก การใช้ QR Code บนสื่อ OOH ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อจากโลกกายภาพเข้าสู่ช่องทางดิจิทัลได้ทันที เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมหรือรับสิทธิพิเศษผ่านมือถือ เป็นการเปลี่ยนการรับรู้ (Awareness) ให้กลายเป็นการกระทำ (Action) ที่วัดผลได้

  • ติด QR บนป้ายโฆษณา เช่น ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเชื่อมกิจกรรมเข้าสู่ดิจิทัล
  • เปลี่ยน Awareness ให้กลายเป็น Conversion ที่วัดผลได้

แคมเปญชานม: Milk Tea Campaign

  • ตัวอย่างความสำเร็จของแบรนด์ F&B ที่ใช้ O2O เพิ่มยอดขายเฉลี่ยขึ้น 20%
  • เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เสิร์ชหาโปรโมชันก่อนซื้อจริง

6. Emotional Marketing และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์

Limited Edition Product/Menu

  • เช่น KFC ชิซซ่า หรือ Winter Omakase จาก Zen Group
  • สร้างกระแสใน Social Media และความรู้สึกพิเศษเฉพาะช่วงเวลา

ขายคุณค่าทางใจ

  • ใช้ Storytelling เพื่อขาย “ความสุข” แทนส่วนลด เช่น แคมเปญ ‘ชีสนัว’ จาก Zen
  • ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมโยงกับแบรนด์ในระดับอารมณ์

ESG และการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจ

ESG ย่อมาจาก Environmental, Social, และ Governance ซึ่งหมายถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล แบรนด์ที่ใช้แนวคิด ESG มักเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์กับความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น ใช้วัสดุรีไซเคิลหรือสนับสนุนกิจกรรมเพื่อชุมชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจให้กับผู้บริโภค

  • ใช้วัสดุรีไซเคิล หรือสนับสนุนสิ่งแวดล้อมในการผลิตสินค้า
  • สร้างความภาคภูมิใจให้ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าแบรนด์นั้นๆ

7. การร่วมมือกับพันธมิตรทางการเงินและเทคโนโลยี

สำหรับแบรนด์ที่ต้องการผลักดันยอดขายผ่าน Search Engine การใช้บริการจาก บริษัททำ Google Ads จะช่วยวางกลยุทธ์ให้สินค้าเข้าถึงลูกค้าที่กำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นหรือของขวัญช่วงเทศกาลได้ตรงจุด

บัตรเครดิต

  • ช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายต่อคำสั่งซื้อ (ATV)
  • ลูกค้าได้รับส่วนลด + คะแนน + ผ่อน 0% โดยที่แบรนด์ไม่ต้องแบกต้นทุนเต็มจำนวน

E-Wallet

  • มอบ Cashback และคูปองแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย
  • ลดต้นทุนเงินสด และเพิ่มโอกาส Retention ด้วยข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่าย

แพ็กเกจโทรคมนาคมช่วงเทศกาล

  • เช่น DTAC 5G รวม YouTube Premium หรือ Netflix
  • ตอบโจทย์การใช้เวลากับครอบครัวช่วงวันหยุด และเพิ่มความรู้สึกคุ้มค่าในสายตาผู้บริโภค

ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์

  • ลงทุนใน MarTech ที่วัดผล O2O ได้แบบเรียลไทม์: เพื่อให้สามารถติดตามว่ากิจกรรมการตลาดใดนำไปสู่ยอดขายจริง โดยเฉพาะเมื่อใช้คูปองหรือ QR Code ที่สามารถเชื่อมโยงกับยอดซื้อหน้าร้านได้ทันที
  • ทำ Gift Set แบบเฉพาะบุคคลด้วยข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า: ใช้ข้อมูลการซื้อและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อออกแบบชุดของขวัญหรือข้อเสนอที่ตรงใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการแปลงและความรู้สึกพิเศษ
  • ใช้พื้นที่ค้าปลีกเป็น Destination สำหรับสร้างประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ขายของ: ออกแบบหน้าร้านให้เป็นจุดหมายที่ลูกค้าอยากมา ไม่ใช่แค่สถานที่ซื้อสินค้า เช่น การจัดกิจกรรมหรือธีมเฉพาะช่วงเทศกาล
  • เพิ่ม Emotional Marketing ด้วยความยั่งยืน (Sustainability) และ ESG: สื่อสารคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ยั่งยืนกับผู้บริโภค

แจก E-book Google VS Facebook ฟรี!!!

เพียงส่งโค้ดในหน้าเว็บนี้เข้ามาที่ไลน์

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!






    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน