NotebookLM อัปเดตใหม่ 2026

NotebookLM อัปเดตใหม่ 2026: Deep Research ค้นหาข้อมูลลึก 20+ เว็บอัตโนมัติ

NotebookLM อัปเดตใหม่ 2026: Deep Research ค้นหาข้อมูลลึก 20+ เว็บอัตโนมัติ

สำหรับผู้ที่ใช้งาน NotebookLM อยู่แล้ว การอัปเดตครั้งล่าสุดในปี 2026 นี้นำเสนอฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะ Deep Research ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาและสรุปข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและลึกซึ้งกว่าเดิม บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับฟีเจอร์ใหม่และวิธีการใช้งานที่จะช่วยให้การเรียนรู้และการทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

NotebookLM คืออะไร และทำไมถึงได้รับความนิยม

NotebookLM เป็นเครื่องมือจาก Google ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการจัดการและสรุปข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ PDF, บทความจากเว็บไซต์, วิดีโอ หรือเอกสารใน Google Drive จุดเด่นที่ทำให้ NotebookLM แตกต่างจากเครื่องมือทั่วไปคือความสามารถในการรับข้อมูลที่หลากหลายและสรุปให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้งาน NotebookLM สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ โดยเข้าไปที่ notebooklm.google และกด “Try NotebookLM” เพียงมีบัญชี Gmail ก็สามารถใช้งานได้ทันที หากต้องการเรียนรู้พื้นฐานการใช้งาน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NotebookLM คืออะไร

โครงสร้างหน้าจอ NotebookLM: เข้าใจก่อนใช้งาน

หน้าจอของ NotebookLM แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ซึ่งผู้ใช้งานควรทำความเข้าใจเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ:

1. Sources (แหล่งข้อมูล)

ส่วนนี้อยู่ด้านซ้ายของหน้าจอ เป็นที่ที่คุณจะเพิ่มข้อมูลต่างๆ เข้าไปในระบบ ไม่ว่าจะเป็น:

  • ไฟล์ PDF
  • ลิงก์บทความจากเว็บไซต์ (URL)
  • เอกสารจาก Google Drive
  • เนื้อหาอื่นๆ ที่ต้องการให้ระบบวิเคราะห์

2. Summary (สรุปผลลัพธ์)

ส่วนกลางของหน้าจอจะแสดงสรุปข้อมูลที่คุณได้เพิ่มเข้าไป ระบบจะวิเคราะห์และสรุปเนื้อหาสำคัญให้คุณเห็นภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว

3. Studio (ฟีเจอร์เสริม)

ส่วนขวาสุดของหน้าจอเป็นพื้นที่สำหรับสร้างผลลัพธ์ในรูปแบบต่างๆ เช่น:

  • Podcast (พอดแคสต์เสียง)
  • Flashcard (บัตรคำศัพท์)
  • Mind Map (แผนผังความคิด)
  • Report (รายงานสรุป)

Deep Research: ฟีเจอร์เด่นที่เปลี่ยนวิธีค้นหาข้อมูล

ฟีเจอร์ Deep Research คือจุดเปลี่ยนสำคัญของ NotebookLM ในการอัปเดตครั้งนี้ ซึ่งนำเทคโนโลยีจาก Gemini ของ Google มาใช้งาน ทำให้สามารถค้นหาข้อมูลได้ลึกซึ้งและครอบคลุมมากกว่าการค้นหาแบบเดิม

ความแตกต่างระหว่าง Fast Research และ Deep Research

Fast Research (การค้นหาแบบปกติ)

  • ค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่จำกัด
  • ใช้เวลาสั้น เหมาะกับคำถามง่ายๆ
  • ได้ผลลัพธ์รวดเร็วแต่อาจไม่ครอบคลุม

Deep Research (การค้นหาเชิงลึก)

  • ค้นหาข้อมูลจาก 20-30 เว็บไซต์
  • ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที
  • วิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดและครอบคลุม
  • สามารถเชื่อมต่อกับ Google Drive เพื่อค้นหาข้อมูลภายในองค์กร

NotebookLM อัปเดตใหม่ 2026

วิธีใช้งาน Deep Research ทีละขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1: สร้าง Notebook ใหม่

เริ่มต้นด้วยการกดปุ่ม “+” เพื่อสร้าง Notebook ใหม่ และตั้งชื่อตามหัวข้อที่ต้องการศึกษา ตัวอย่างเช่น หากต้องการเรียนรู้เรื่อง “GEO (Generative Engine Optimization)” ซึ่งเป็นเทคนิคการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับใน ChatGPT และ AI ต่างๆ ก็สามารถตั้งชื่อว่า “GEO Guide” หรือชื่ออื่นที่เหมาะสม

ขั้นตอนที่ 2: เลือกประเภทการค้นหา

ในส่วนล่างของหน้าจอ คุณจะเห็นตัวเลือกการค้นหา 3 แบบ:

  • Web Search: ค้นหาจากเว็บไซต์ทั่วไป (แนะนำสำหรับข้อมูลทั่วไป)
  • Google Drive: ค้นหาจากเอกสารภายใน Google Drive ของคุณ (เหมาะสำหรับข้อมูลองค์กร)
  • Custom Source: ค้นหาจากแหล่งข้อมูลที่กำหนดเอง

ขั้นตอนที่ 3: พิมพ์หัวข้อและเลือก Deep Research

พิมพ์หัวข้อหรือคำถามที่ต้องการค้นหา ยกตัวอย่างเช่น:

  • “เรียนรู้เรื่อง Generative Engine Optimization หรือ GEO เป็นการทำให้เว็บไซต์ติดบน ChatGPT”
  • “กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลสำหรับธุรกิษ SME ในปี 2026”
  • “เทรนด์ AI ที่ธุรกิจควรรู้”

จากนั้นเลือก “Deep Research” แทนที่จะเป็น “Fast Research” แบบปกติ

ขั้นตอนที่ 4: รอผลการค้นหา

เมื่อกดเริ่มการค้นหา ระบบจะ:

  1. วางแผนการค้นหา: แสดงไอเดียว่าจะไปค้นหาข้อมูลอะไรบ้าง
  2. เริ่มค้นหา: ระบบจะค่อยๆ ค้นหาและรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ (ใช้เวลา 5-10 นาที)
  3. แจ้งเตือน: ระบบจะแจ้ง “Feel free to leave” แสดงว่าคุณสามารถปิดหน้าต่างไปทำงานอื่นได้ ระบบจะทำงานต่อในเบื้องหลัง

ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบผลลัพธ์

เมื่อระบบค้นหาเสร็จ จะแสดงข้อความ “Deep Research Completed” คุณสามารถ:

  • ดูจำนวนแหล่งข้อมูล: ระบบจะแสดงว่าค้นหาจากเว็บไซต์กี่แห่ง (มักจะเป็น 20-24 เว็บไซต์)
  • อ่านสรุปข้อมูล: ดูบทสรุปที่ระบบวิเคราะห์และรวบรวมมาให้
  • Import Sources: กดปุ่ม “Import” เพื่อเพิ่มแหล่งข้อมูลทั้งหมดเข้าไปใน Sources ของ Notebook

ประโยชน์ของ Deep Research สำหรับธุรกิจและนักการตลาด

1. ประหยัดเวลาในการวิจัย

การที่ระบบสามารถค้นหาและสรุปข้อมูลจาก 20+ เว็บไซต์ได้อัตโนมัติ ช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการค้นคว้าข้อมูลจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที

2. ข้อมูลที่ครอบคลุมและน่าเชื่อถือ

เนื่องจากระบบค้นหาจากหลายแหล่ง ทำให้ได้ข้อมูลที่หลากหลายมุมมองและครอบคลุมมากกว่าการอ่านบทความเดียว

3. เหมาะสำหรับการวิเคราะห์คู่แข่ง

นักการตลาดสามารถใช้ Deep Research ในการศึกษากลยุทธ์ของคู่แข่ง เทรนด์ตลาด หรือพฤติกรรมผู้บริโภค

4. สนับสนุนการตัดสินใจเชิงธุรกิจ

ข้อมูลที่ได้จาก Deep Research สามารถนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ สร้างเนื้อหา หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. เชื่อมต่อกับข้อมูลภายในองค์กร

การที่สามารถเชื่อมต่อกับ Google Drive และค้นหาข้อมูลภายในองค์กรได้ ทำให้สามารถรวบรวมทั้งข้อมูลภายนอกและภายในมาวิเคราะห์ร่วมกันได้

กรณีศึกษา: การใช้งานจริงในธุรกิจไทย

สำหรับบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์และธุรกิจ SME ในประเทศไทย Deep Research สามารถนำไปใช้ในหลายสถานการณ์:

ตัวอย่างที่ 1: วิเคราะห์เทรนด์การตลาด หัวข้อค้นหา: “Digital Marketing Trends for Thai SMEs 2026” ผลลัพธ์: ได้ข้อมูลจาก 24 เว็บไซต์ครอบคลุมทั้งแหล่งต่างประเทศและไทย รวมถึงสถิติ กรณีศึกษา และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

ตัวอย่างที่ 2: ศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่ หัวข้อค้นหา: “AI Tools for Content Creation in Thailand” ผลลัพธ์: รายการเครื่องมือที่เหมาะสมกับตลาดไทย ข้อดี-ข้อเสีย ราคา และรีวิวจากผู้ใช้งานจริง

ตัวอย่างที่ 3: วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค หัวข้อค้นหา: “E-commerce Consumer Behavior Thailand 2026” ผลลัพธ์: ข้อมูลสถิติ แนวโน้มการซื้อออนไลน์ และปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของคนไทย

เคล็ดลับการใช้งาน Deep Research ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

1. ระบุหัวข้อให้ชัดเจนและเจาะจง

แทนที่จะค้นหาว่า “Digital Marketing” ควรเขียนเป็น “Digital Marketing Strategies for Thai Fashion E-commerce 2026” จะได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น

2. ใช้ภาษาอังกฤษเมื่อต้องการข้อมูลสากล

หากต้องการข้อมูลจากแหล่งต่างประเทศ การค้นหาด้วยภาษาอังกฤษจะให้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากกว่า

3. ตรวจสอบแหล่งข้อมูล

แม้ระบบจะค้นหาให้อัตโนมัติ แต่ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลที่ระบบนำมาใช้

4. บันทึกผลลัพธ์สำคัญ

ใช้ฟีเจอร์ Studio ในการสร้าง Mind Map หรือ Report เพื่อจัดระเบียบข้อมูลที่ได้ให้ใช้งานได้สะดวก

5. ผสมผสานกับข้อมูลภายในองค์กร

เชื่อมต่อกับ Google Drive เพื่อให้ระบบวิเคราะห์ทั้งข้อมูลภายนอกและภายในร่วมกัน จะได้มุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้น

ข้อจำกัดที่ควรรู้

แม้ Deep Research จะเป็นฟีเจอร์ที่ทรงพลัง แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่ควรทราบ:

1. เวลาในการประมวลผล

การค้นหาแบบ Deep Research ใช้เวลา 5-10 นาที ซึ่งนานกว่าการค้นหาแบบปกติ หากต้องการข้อมูลเร่งด่วนอาจไม่เหมาะสม

2. ภาษาไทย

แม้จะสามารถค้นหาเป็นภาษาไทยได้ แต่การค้นหาด้วยภาษาอังกฤษมักจะได้ผลลัพธ์ที่หลากหลายกว่า

3. ข้อมูลเฉพาะทาง

สำหรับข้อมูลเฉพาะทางที่มีแหล่งข้อมูลจำกัด Deep Research อาจไม่พบข้อมูลที่ครอบคลุมเท่าที่ควร

4. การตีความข้อมูล

ระบบสรุปข้อมูลอัตโนมัติ ซึ่งบางครั้งอาจตีความหรือสรุปไม่ตรงกับบริบทเฉพาะ ควรตรวจสอบและตัดสินใจเองด้วย

การนำไปประยุกต์ใช้กับเครื่องมือ Google อื่นๆ

NotebookLM สามารถทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ ของ Google ได้อย่างราบรื่น:

Google Drive Integration

  • เชื่อมต่อกับ Google Drive เพื่อนำเอกสาร สเปรดชีต และไฟล์อื่นๆ เข้ามาวิเคราะห์
  • บันทึกผลลัพธ์จาก NotebookLM กลับไปยัง Google Drive

Gemini Synergy

  • เทคโนโลยี Deep Research มาจาก Gemini
  • สามารถใช้ผลลัพธ์จาก NotebookLM ไปต่อยอดใน Gemini ได้

YouTube Integration

  • นำลิงก์วิดีโอ YouTube มาให้ NotebookLM สรุปเนื้อหา
  • ประหยัดเวลาในการดูวิดีโอยาวๆ

อนาคตของ NotebookLM และ AI ในการจัดการความรู้

การอัปเดต Deep Research ในปี 2026 นี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น คาดว่าในอนาคต NotebookLM จะมีการพัฒนาเพิ่มเติมในด้าน:

1. ความแม่นยำในการวิเคราะห์ภาษาไทย

การปรับปรุง AI ให้เข้าใจบริบทภาษาไทยได้ดีขึ้น และสามารถค้นหาข้อมูลจากแหล่งภาษาไทยได้มากขึ้น

2. การทำงานร่วมกันแบบทีม

ฟีเจอร์ที่ให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันใน Notebook เดียวกันได้ เหมาะสำหรับองค์กร

3. การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

ติดตามและอัปเดตข้อมูลจากแหล่งต่างๆ แบบอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัยอยู่เสมอ

4. Integration กับเครื่องมือการตลาด

เชื่อมต่อกับ Google Ads, Google Analytics และเครื่องมือการตลาดอื่นๆ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลแบบครบวงจร

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยว NotebookLM Deep Research

คำถาม 1: Deep Research ต่างจาก Fast Research อย่างไร?

คำตอบ: Deep Research ค้นหาข้อมูลจาก 20-30 เว็บไซต์และใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที ในขณะที่ Fast Research ค้นหาจากแหล่งที่จำกัดกว่าและใช้เวลาน้อยกว่า Deep Research เหมาะกับหัวข้อที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกและครอบคลุม

คำถาม 2: ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้งาน Deep Research หรือไม่?

คำตอบ: ปัจจุบัน NotebookLM สามารถใช้งานได้ฟรีสำหรับผู้ที่มีบัญชี Google อย่างไรก็ตาม Google อาจมีการปรับเปลี่ยนนโยบายในอนาคต

คำถาม 3: สามารถใช้ Deep Research ค้นหาข้อมูลภาษาไทยได้ดีแค่ไหน?

คำตอบ: Deep Research สามารถค้นหาภาษาไทยได้ แต่ผลลัพธ์จะหลากหลายมากกว่าหากค้นหาด้วยภาษาอังกฤษ เนื่องจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ภาษาอังกฤษมีจำนวนมากกว่า

คำถาม 4: ข้อมูลที่อัปโหลดเข้า NotebookLM ปลอดภัยหรือไม่?

คำตอบ: Google ระบุว่าข้อมูลที่อัปโหลดเข้า NotebookLM จะไม่ถูกนำไปใช้ในการเทรน AI และเก็บไว้ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google แต่ควรหลีกเลี่ยงการอัปโหลดข้อมูลที่เป็นความลับสูงสุด

คำถาม 5: สามารถ Export ผลลัพธ์จาก NotebookLM ได้หรือไม่?

คำตอบ: ได้ คุณสามารถคัดลอกข้อความ หรือสร้างไฟล์ผ่านฟีเจอร์ Studio เช่น การสร้าง Report หรือ Mind Map แล้วบันทึกหรือส่งออกไปใช้งานในที่อื่นได้

คำถาม 6: Deep Research เหมาะกับงานประเภทใดบ้าง?

คำตอบ: เหมาะกับงานที่ต้องการข้อมูลครอบคลุม เช่น การวิจัยตลาด การศึกษาคู่แข่ง การเขียนบทความเชิงวิชาการ การวิเคราะห์เทรนด์ หรือการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ

คำถาม 7: สามารถใช้ Deep Research กับข้อมูลในองค์กรได้หรือไม่?

คำตอบ: ได้ โดยการเชื่อมต่อกับ Google Drive องค์กร ระบบจะสามารถค้นหาและวิเคราะห์เอกสารภายในองค์กรได้ เหมาะสำหรับการจัดการความรู้ภายในบริษัท

คำถาม 8: ถ้าผลลัพธ์จาก Deep Research ไม่ตรงกับที่ต้องการ ควรทำอย่างไร?

คำตอบ: ลองปรับคำค้นหาให้เจาะจงมากขึ้น หรือระบุบริบทให้ชัดเจน นอกจากนี้สามารถเพิ่มข้อมูลเฉพาะเข้าไปใน Sources เพิ่มเติมเพื่อให้ระบบวิเคราะห์ร่วมกับผลจาก Deep Research ได้


ข้อคิดสุดท้าย

NotebookLM พร้อมฟีเจอร์ Deep Research ในปี 2026 เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับนักการตลาด ผู้ประกอบการ และคนทำงานที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการค้นหาและสรุปข้อมูลจาก 20+ เว็บไซต์อัตโนมัติช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก

สำหรับธุรกิจ SME และนักการตลาดดิจิทัลในประเทศไทย การนำ NotebookLM มาใช้ในการวิเคราะห์ตลาด ศึกษาคู่แข่ง และติดตามเทรนด์ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลรองรับและแม่นยำยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนแคมเปญ การสร้างเนื้อหา หรือการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจ

ลองใช้งาน NotebookLM และทดสอบ Deep Research ด้วยตัวเองเพื่อค้นพบศักยภาพที่จะช่วยยกระดับการทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แจก E-book Google VS Facebook ฟรี!!!

เพียงส่งโค้ดในหน้าเว็บนี้เข้ามาที่ไลน์

ส่งข้อมูลถึงเรา

ติดต่อขอข้อมูล และรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจของคุณได้ฟรี!






    คุยกับเราทางไลน์

    เพิ่มเพื่อน